ดัมเบล ตัวช่วยสร้างหุ่นสวย หุ่นเฟิร์ม หุ่นปังให้ใครหลาย ๆ คน ดังนั้น เราก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพของตัวเองและลักษณะการใช้งานของเรา เพื่อลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากดัมเบลได้สูงสุด หากใครที่กำลังหาดัมเบลคู่ใจอยู่หรือหากว่ามีดัมเบลอยู่แล้วอยากรู้ว่าเหมาะกับตัวเองหรือเปล่าไปอ่านกันเลย
- ตั้งจุดประสงค์ของการใช้งาน
เราจะต้องรู้ก่อนว่าเราต้องการนำดัมเบลไปใช้เพื่ออะไร โดยหากเราต้องการนำไปใช้ออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน ลดความอ้วน ลดสัดส่วนปกติ ก็อาจจจะเลือกน้ำหนักของดัมเบลไม่ต้องมากนัก เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้บ่อย ๆ แต่หากต้องการนำไปสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหรือเพิ่มกล้ามแขนกก็อาจจจะต้องเพิ่มน้ำหนักของดัมเบลเพิ่มขึ้นมากอีก
- เลือกน้ำหนัก
- ดัมเบลน้ำหนัก 0.5 – 1 กิโลกรัม เหมาะสำหรับท่าการออกกำลังกายที่ต้องมีการยกแขน ขา หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายบ่อยครั้ง เช่น การออกกำลังกายด้วยท่า Shoulder Press, Leg Lift และ Jackknife
- ดัมเบลน้ำหนัก 1 – 3 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่เน้นท่าบริหารกล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อกลางลำตัว เพื่อสร้างซิกแพคด้วยท่าออกกำลังกายลดหน้าท้อง และเหมาะสำหรับการออกกำลังกายด้วยท่า Squad และ Lunges
- ดัมเบลน้ำหนัก 3 – 5 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงเหวี่ยง เช่น ท่า Deadlifts หรือ Sumo Squad แต่ควรใช้ดัมเบลที่มีน้ำหนักมากเฉพาะเซ็ตแรกของการออกกำลังกายเท่านั้น เพื่อลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อที่อาจเกิดขึ้น
- เลือกประเภทดัมเบล
- ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักไม่ได้ (Fixed Dumbbells) เหมาะกับผู้หญิงและผู้ที่พึ่งเริ่มต้นฝึกด้วยดัมเบล การเลือกใช้ดัมเบลประเภทนี้เหมาะกับการฝึกที่ต้องใช้น้ำหนักเท่าเดิมต่อเนื่อง และเน้นเรื่องการสร้างความทนทานของกล้ามเนื้อมากกว่าการเพิ่มกล้ามเนื้อ
- ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ (Adjustable Dumbbells) เหมาะสำหรับผู้ที่มีการฝึกมาระยะหนึ่งแล้วและต้องการเพิ่มการฝึกให้มีความเข้มข้น หรือเพิ่มขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ โดยดัมเบลประเภทนี้สามารถใช้กับรูปแบบการฝึกที่ต้องใช้น้ำหนักที่หลากหลายมากขึ้น โดยดัมเบลแบบปรับขนาดได้มีให้เลือกด้วยกัน 2 ประเภท คือ 1. ด้ามจับแบบหมุนเกลียว ยึดแน่นไม่หลุดง่ายและมีความปลอดภัยสูง ใช้เวลาเปลี่ยนแผ่นน้ำหนักเล็กน้อย 2. ด้ามจับแบบปกติ หลุดได้ง่าย ใช้เวลาเปลี่ยนไม่นาน
- ลองยกดูว่าดัมเบลที่เลือกเหมาะกับเราไรหรือไม่
หากเริ่มต้นใช้ดัมเบลครั้งแรก แต่ไม่สามารถยกได้มากกว่า 7 ครั้งในการฝึกท่าใดท่าหนึ่ง แสดงว่าน้ำหนักของดัมเบลมากเกินไปสำหรับเรา ดังนั้น ควรเปลี่ยนดัมเบลที่มีน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิม 0.5-1.5 กิโลกรัม โดยค่อย ๆ ปรับน้ำหนักลดลงทีละน้อยเพื่อหาน้ำหนักที่เหมาะที่สุดสำหรับท่าฝึกนั้น และเป็นการลดโอกาสการบาดเจบของกล้ามเนื้อด้วย
ตัวช่วยปั้นหุ่น สร้างซิกแพค ไม่ต้องออกกำลังกาย
Emsculpt
เป็นทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความจริงแล้วเป็นเรื่องยากอย่างมากที่คนวัยหนุ่มสาวหรือวัย50+จะสามารถออกกำลังกายได้ขนาดนี้ในเวลา 30 นาที
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและทำให้กล้ามเนื้อกลับมาชิดกันมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย จากองค์กรอาหารและยาของประเทศอมเริกา (US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration) ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน
ปรึกษาลดน้ำหนักและสัดส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
𝐓𝐞𝐥 : 080-5000-123
𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/
The post Howto เลือกดัมเบลอย่างไร ให้เหมาะกับคุณ appeared first on Apex Profound Beauty.