ซึ่งทางเลือกมีอีกทางเลือกหนึ่งนอกจาก Ulthera (อัลเทอร่า) ก็คือ Sofwave ซึ่งเป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวใหม่ล่าสุด ที่ Apex Medical Center ได้นำเข้าเครื่องจากอเมริกา ซึ่งใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์เพื่อกระชับผิว บริเวณใบหน้าและลำคอ แต่หลายคนก็อาจจะสงสัยว่าเทคโนโลยี 2 ตัวนี้ แตกต่างกันอย่างไร มีความคล้ายหรือแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด วันนี้เพ็กซี่จะมาเปรียบเทียบให้ค่ะว่าระหว่าง Ulthera vs Sofwave แตกต่างกันอย่างไร ช่วยให้ ผิวกระชับ ได้จริงไหม เครื่องไหนคุ้มกว่ากัน มาฟังกันเลยค่ะ
Sofwave คืออะไร
ใหม่ Sofwave จะช่วยฟื้นฟูผิวสำหรับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยระดับน้อยถึงปานกลาง ช่วยลดริ้วรอย ผิวหนังหย่อนคล้อย ผิวยกกระชับขึ้นได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลลัพธ์ดีและรวดเร็ว เนื่องจากหัวยิงมีขนาดใหญ่กว่า ทำให้พลังงานครอบคลุมเนื้อที่ในการรักษาที่มากกว่าเทคโนโลยีเดิมๆ ซึ่งการยิงแต่ละครั้งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจำนวนมาก จึงทำให้เห็นผลการรักษาได้รวดเร็ว ไดัรับการรับรอง FDA ข้อดีคือสามารถยกกระชับผิว ยกคิ้ว ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย บริเวณคอและเหนียง และยังช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ของเส้นใบหน้าและริ้วรอย
หลักการทำงาน Sofwave
Sofwave เป็นคลื่นอัลตราซาวน์ที่มีความถี่สูงจากหัวยิง SUPERB
(Synchronous Ultrasound Parallel Beam Technology) ส่งพลังงานออกมายังหัวยิงอย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ พลังงานความร้อนจำนวนมากจะออกมาเป็นแนวขนาน ได้กว้างและลึกอย่างสม่ำเสมอ เป็นรูปทรงกระบอกสามมิติ 7 แท่งลงลึกสู่ผิวหนังแท้ส่วนกลาง (Middle to Deep Demis) ที่ระดับ 1.5 มม. ซึ่งเป็นชั้นผิวที่มี Collagen และ Elastin อยู่อย่างหนาแน่น ส่งผลให้คอลลาเจนเกิดการหดตัว และเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้หน้ายกกระชับ ผิวตึง เรียบเนียน สามารถทำได้ทั่วบริเวณผิวหน้าและลำคอ
Ulthera คืออะไร
Ulthera (อัลเทอร่า) การยกกระชับใบหน้าด้วยพลังงานคลื่นเสียงที่มีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ลงไปที่บริเวณผิวหนังชั้น SMAS แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนจุดเล็กๆ ที่มีระยะห่างระหว่างจุดอย่างเท่ากันด้วยขนาด 1 มม. ซึ่งเป็นจุดโฟกัสขนาดใหญ่ ทำให้มีความเสถียรในการส่งพลังงานสู่ผิวหนัง โดยสามารถรักษาแบบเฉพาะจุดได้อีกด้วย
สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยมาก สามารถดึงหน้าและยกกระชับผิว (Tissue lifting) บริเวณผิวหน้าและลำคอ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสียเวลาในการพักฟื้น
โดยระหว่าทำ Ulthera (อัลเทอร่า) ทั้งแพทย์และคนที่เข้ารับบริการจะสามารถเห็นภาพรายละเอียดในระดับชั้นผิวได้ผ่านหน้าจอเครื่องแบบ Real-Time Visualization แพทย์สามารถจะปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวไปพร้อมๆ กับทำการยกกระชับผิวหน้าได้อย่างละเอียดและแม่นนำ
หลักการทำงาน Ulthera
Ulthera (อัลเทอร่า) ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าซาด์ชนิด Micro Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V) ที่เป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง สามารถลงไปใต้ชั้นผิว SMAS โดยจะมีความร้อนที่อยู่ในระดับ 60-70°C ลักษณะพลังงานที่ได้จะเป็นจุดพลังงานขนาด 1 mm ที่มีลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว และมีหน้าจอในการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปแบบ Real time โดยใช้หัวที่มีความลึกถึง 3 ระดับ คือ
- ลึก 1.5 mm สำหรับริ้วรอยผิวชั้นบน ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis)
- ลึก 3 mm สำหรับลดความหย่อนคล้อยของผิว กระชับชั้นไขมัน
- ลึก 4.5 mm สำหรับยิงชั้น SMAS ที่เป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมผิวหน้า เหมาะสำหรับยกแก้ม เหนียง และลำคอ
Ulthera และ Sofwave แตกต่างกันอย่างไร
Sofwave และ Ulthera (อัลเทอร่า) ใช้เทคโนโลยีที่คล้ายกันมาก ดังนั้นแล้วเนี่ยทั้งสองมีความแตกต่างกันมากจริงหรือไม่? ทั้ง Ulthera (อัลเทอร่า) และ Sofwave ใช้พลังงาน Ultrasound เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ และที่สำคัญที่สุดคือผิวจะกระชับและเต่งตึงด้วยการสร้างคอลลาเจนใหม่ ความแตกต่างการรักษาของทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้ ก็คือ ความลึกที่ส่งพลังงาน โดยที่ Ulthera (อัลเทอร่า) มีขนาด 1.5 มม. 3.0 มม. และ 4.5 มม. ในขณะที่ Sofwave โฟกัสเฉพาะที่ความลึก 1.5 มม. ซึ่งเป็นชั้นกลางชั้นลึกของผิวหนังที่มีคอลลาเจนอยู่มากที่สุด ความแตกต่างที่ผลลัพธ์อาจจะดูเหมือนเล็กน้อย
Ulthera และ Sofwave มีอะไรที่เหมือนกัน
Sofwave และ Ulthera (อัลเทอร่า) ทั้ง 2 เทคโนโลยีเป็นการยกกระชับผิวโดยใช้อัลตราซาวน์ผ่านการรับรองจาก FDA การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัดไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์หลังการรักษาเพียงครั้งเดียว
- Sofwave จะเน้นเรื่องคุณภาพผิวและความยืดหยุ่นมากกว่าการกระชับและ ยกกระชับกล้ามเนื้อ
- Sofwave เป็นการรักษาที่รวดเร็วกว่าโดยใช้เวลาในการยกกระชับผิวเร็วกว่า Ulthera (อัลเทอร่า) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่ทำการรักษา
- ผลลัพธ์หลังทำทั้ง Ulthera (อัลเทอร่า) และ Sofwave มีผลลัพธ์เดียวกันก็คือมีผิวยกกระชับขึ้น แต่การเห็นผลลัพธ์นั้น Sofwave จะเร็วกว่า Ulthera (อัลเทอร่า)
- ผลลัพธ์ความยาวนั้น Ulthera (อัลเทอร่า) จะอยู่ได้ยาวนานกว่า Sofwave โดยที่ทำ Ulthera 1 ครั้งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 1-2 ปี และ Sofwave อยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลค่ะ
Ulthera และ Sofwave การรักษาอันไหนเร็วกว่ากัน
ถ้าหากพูดถึงผลลัพธ์ Sofwave เห็นผลรวดเร็วกว่า Ulthera (อัลเทอร่า) เนื่องจากหัวเครื่อง Sofwave มีขนาดใหญ่กว่า เพราะมีแกนแนวยาวถึง 7 แท่ง ทำให้ครอบคลุมพื้นที่การรักษาที่กว้างขึ้น อีกทั้งมีระบบ SofCool เทคโนโลยีความเย็นที่หัวยิงออกมาเคลือบผิวหนังชั้นหนังกำพร้าระหว่างที่ยิง ทำให้ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ ผิวไม่เบิร์น และมีความปลอดภัยสูง
หลังจากทำ Sofwave ผิวจะดูดีขึ้นใน 7-10 วันแรกหลังจากทำ ผิวอวบอิ่มและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากอาการบวมเล็กน้อย และผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นใน 2-3 เดือน ส่วนหลังทำ Ulthera (อัลเทอร่า) อาจพบรอยแดงหลังทำได้ แต่รอยนั้นจะค่อยๆ จางไปใน 1 สัปดาห์ และผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะใช้เวลา 3-6 เดือน
และเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเรากำลังจะสร้างคอลลาเจนใหม่ อาจจะต้องใช้เวลา แต่เราพบเราผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นธรรมชาติมากกว่า และอยู่ได้ยาวนานกว่าการรักษาที่ให้ผลทันที
ใครบ้างที่เหมาะกับ Ulthera
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า กังวลเรื่องความหย่อนคล้อย และ ริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า ได้ทั้งบริเวณใบหน้า กรอบหน้า เหนียง ลำคอ และเนินอก
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หนังตาตก หางตาตก แต่ยังไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าและไม่มีเวลาพักฟื้น การทำ Ulthera (อัลเทอร่า) สามารถช่วยยกคิ้ว ยกหนังตาเห็นผลได้ดี โดยไม่ทำให้โครงสร้างบนใบหน้าเปลี่ยนแปลง
- ผู้ที่มีไขมันที่แก้มไม่เยอะมาก ต้องการปรับหน้าเรียว มีกรอบหน้าที่ชัดขึ้น เห็นแนวกราม ลดเหนียง
- ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง แต่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับเปล่งปลั่ง รูขุมขนเล็กลง เรียบเนียน เพราะการทำ Ulthera (อัลเทอร่า) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชั้นลึกได้ โดยทำเพียงปีละครั้ง ก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
ใครบ้างที่เหมาะกับ Sofwave
Sofwave เหมาะกับทุกเพศ ในช่วงวัย 30 – 70 ปี ซึ่งมีความหย่อนคล้อยของผิวหน้า คอ และคางในระดับเล็กน้อย ถึง ปานกลาง Sofwave
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอายุเยอะและไม่ต้องการทำศัลยกรรมดึงหน้าแต่ต้องการเพียงให้ความหย่อนคล้อยของผิวดีขึ้นบ้าง คนที่ไม่รักษาสุขภาพ เช่น สูบบุหรี่ หรือ ตากแดดจัด ๆ ไม่เหมาะที่จะทำทรีตเมนท์นี้
Ulthera กับ Sofwave อันไหนเจ็บมากกว่ากัน
ด้วยหลักการทำงานของทั้ง 2 เครื่องยกกระชับผิวมีลักษณะที่คล้ายๆ กัน ถึงแม้จะใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงแบบเดียวกัน แต่เมื่อทำแล้ว Ulthera จะให้ความรู้สึกเจ็บมากกว่า Sofwave เนื่องจาก Ulthera ส่งพลังงานได้ลึกกว่า 1.5 – 4.5 mm. ลงไปในชั้นใต้ผิวหนัง มีหลายหัว จุด Focus มีขนาดใหญ่ จึงจะรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ และปวดๆ หน่วงๆ ส่วน Sofwave ส่งพลังงานลงชั้นใต้ผิวหนังได้แค่เพียงระดับ 1.5 มม. ซึ่งเป็นชั้นผิวที่มี Collagen และ Elastin แต่ความพิเศษของ Sofwave คือจะมีระบบ SofCool ให้ความเย็นที่ผิวทำให้เจ็บน้อย ดังนั้นถ้าหากถามว่าอันไหนเจ็บมากกว่ากัน ขอบอกเลยค่ะว่า Ulthera เจ็บมากกว่า Sofwave แต่ไม่ว่าคนไข้จะทำ Ulthera หรือ Sofwave ทางเราจะมียาชาก่อนทำหัตถการให้ค่ะ เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างทำ สามารถนอนชิลๆ ระหว่างทำได้เลย~
Ulthera และ Sofwave ดีกว่ากัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งกว่า
จริงๆ แล้วทั้ง Ulthera (อัลเทอร่า) และ Sofwave นั้น ไม่ได้มีใครดีใครเด่นกว่าใครเลย ทั้งสองหัตถการมีคุณภาพและประสิทธิภาพพอๆ กัน จะให้ผลลัพธ์ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับการรักษาของเราและสภาพผิวของตัวเองเป็นหลักค่ะ หากคุณมีผิวที่หยาบกร้านหรือผิวบาง มีริ้วรอยเยอะ อย่างเช่นบริเวณริ้วรอยหน้าผาก รอบดวงตา รอบปากและร่องแก้ม หรือมีปัญหาผิวเรื่องของรูขุมขนและผิวไม่กระชับ Sofwave จึงเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเหล่านี้ แต่หากว่าคุณมีริ้วรอยและรอยพับ แต่ไม่ใช่แค่ผิวหย่อนคล้อยเท่านั้น ยังรวมไปถึงกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยอีกด้วย เหมาะกับการทำ Ulthera อัลเทอร่า ทั้งนี้ Ulthera และ Sofwave ยังช่วยปรับโครงสร้างผิวบนใบหน้าให้กลับมาดูดี ไร้ร่องลึก ได้อีกครั้ง
Sofwave มีข้อดีอย่างไร
- Sofwave มีระบบ Cooling ที่หัวยิง ขณะทำทรีทเมนท์จะมีความเย็นออกมาเคลือบบริเวณชั้นผิวหนังกำพร้า ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
- Sofwave มีความเฉพาะเจาะจงในการส่งพลังงานอัลตร้าซาวน์ ไปยังชั้นผิวหนังแท้ลงลึกได้ 1.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นชั้นผิวที่มีคอลลาเจนและอิลาสตินจำนวนมาก
- Sofwave เป็นเครื่องยกกระชับที่มีความปลอดภัยสูง
- Sofwave ได้รับมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริการ (US FDA)
- สามารถเห็นผลลัพธ์และรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้เร็ว เพราะเครื่อง Sofwave มีหัวยิงที่มีขนาดใหญ่ ทำให้สามารถส่งพลังงานลงลึกและครอบคลุมพื้นที่ในการรักษาได้มากกว่าหัตถการยกกระชับแบบเดิมๆ ซึ่งการยิงในแต่ละครั้งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจำนวนมาก จึงทำให้เห็นผลการรักษาได้รวดเร็ว
- Sofwave ยกกระชับ ได้โดยไม่ใช่การผ่าตัด ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง
- Sofwave ใช้เวลาไม่นาน เพราะใช้เวลาเพียง 30-45 นาที เท่านั้น
- Sofwave เห็นผลทันทีหลังทำ เริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงประมาณ 2-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลดีที่สุดทำประมาณ 3 เดือน
- ในการทำ Sofwave 1 ครั้ง อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
Ulthera มีข้อดีอย่างไร
- Ulthera (อัลเทอร่า) มีความแม่นยำสูง เพราะมีระบบแสดงหน้าจอในการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงแบบ Real Time
- Ulthera (อัลเทอร่า) ยังครอบคลุมได้ทุกชั้นผิว สามารถลงลึกได้ถึงผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหนัา
- Ulthera (อัลเทอร่า) ยกกระชับ ลดสัดส่วนได้ทั้งหน้าและตัว
- Ulthera (อัลเทอร่า) เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หนังตาตก หางตาตก ผิวไม่กระชับ มีความกังวลเรื่องความหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้า หรือมีไขมันที่แก้มไม่เยอะมาก อยากหน้าเรียวกรอบหน้าชัดขึ้น
- ในการทำ Ulthera (อัลเทอร่า) เป็นการยกกระชับผิวหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และเป็นวิธีที่ปลอดภัยสูงและเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
- Ulthera (อัลเทอร่า) การันตีเรื่องสิทธิภาพและความปลอดภัยผ่านการรับรองจาก US FDA
- สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ Ulthera ( อัลเทอร่า ) โดยจะเห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30% หลังทำ
- หลังทำ Ulthera ( อัลเทอร่า ) ไม่มีรอยแผล ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้น
- หลังการทำ Ulthera (อัลเทอร่า) เพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 1 ปี
เป็นยังไงกันบ้างคะสาวๆ เห็นถึงข้อแตกต่างระหว่าง Ulthera (อัลเทอร่า) และ Sofwave กันแล้วเนอะ จริงๆ แล้วการทำ ยกกระชับ ปรับรูปหน้ากำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเลยทีเดียว เพราะหัตการเหล่านี้ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำผู้ทำการประเมิน เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับผู้ที่สนใจอยาก ยกกระชับ ผิวหน้าด้วยเครื่องยกกระชับ Ulthera (อัลเทอร่า) หรือ Sofwave สามารถติดต่อเข้าปรึกษาปัญหารูปหน้าหรือจองคิวได้ตามที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ