รีวิว ฟอกสีฟัน ZOOM Teeth Whitening แบบละเอียดสุดๆ โดย เบสท์ ชนิดาภา

สวัสดีค่ะ เบสท์ ชนิดาภานะคะ วันนี้เบสจะมา ฟอกสีฟัน ทำฟันค่ะ หลังจากที่มีปัญหาว่าหลายคนถามว่าทำไม ไม่ค่อยยิ้มเห็นฟันเลย ใน IG ใน facebook เพราะว่าเบสมีปัญหาเรื่องที่ฟันไม่ค่อยขาว คือบางครั้งในการถ่ายละคร เราจะทาลิปสีเข้ม เวลาเรายิ้มเห็นฟันจะดูออกเหลืองรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ว่ามีเพื่อน ถามเยอะมาเลยค่ะว่า

1.เวลาเราฟอกสีฟัน ฟันเราจะขาวขึ้นนานแค่ไหน

2.จะเสียวฟันไหมเป็นคำถามหลักเลย

3.แล้วก็เวลาเราฟอก นอกจากขาวแล้วขาวจริงไหม

4.อยู่ได้นานไหม

5.และจะต้องมาฟอกบ่อยแค่ไหน

6.แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือฟันจะบางลงไหม

ก็เป็นคำถามที่เบสท์อยากรู้มาก ๆ วันนี้เบสจะมาฟอกสีฟันแบบ ZOOM กันค่ะ และสอบถามคุณหมอ เกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ ที่เรายังไม่รู้ โดยคุณหมอนิว จะเป็นคุณหมอที่ทำฟอกสีฟันให้กับเบสท์ค่ะ

ก่อนฟอกสีฟัน

พอเข้าไปแล้วบรรยากาศภายในห้องก็จะกว้างขวาง และสะอาดมาก ๆ เบสสะดุดตากับเครื่องที่ดูแปลกตา ซึ่งอันนี้คุณหมอบอกว่าเป็นเครื่อง ZOOM หรือเครื่องฉายแสงเป็นเลเซอร์ ซึ่งทางบริษัทผลิตมาเพื่อกระตุ้นสารฟอกสีฟัน ในขณะที่เราทาลงบนตัวฟันของคนไข้ ทำให้การฟอกสีฟันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้ข่าวว่าจะมีอีกชิ้นหนึ่ง ที่ 1 คนไข้ต่อ 1 กล่องใหม่ โดยคุณหมอได้อธิบายเพิ่มเติมว่าทางบริษัท ZOOM จะผลิตเซตฟอกสีฟันทั้งเซตต่อ 1 กล่อง ต่อคนไข้ 1 คน ไปเลย และหลังจากทำก็จะมีสารป้องกันเพื่อทาไม่ให้คนไข้เสียวฟันระหว่างทำให้เรากลับบ้านไปเลยอีกด้วยค่ะ

ก่อนจะทำเบสท์ก็ได้ถามคุณหมอว่า ขณะที่ฟอกสีฟันจะเสียวฟันไหม ?

คุณหมอนิวก็ได้ตอบว่าไม่ต้องกังวลเลย เพราะว่าถึงคนไข้เสียวฟัน คุณหมอก็จะมีคำแนะนำให้คนไข้เพื่อช่วยลดอาการเสียวฟัน

หลังจากนั้นเบสก็ถามคุณหมอว่าการฟอกสีฟันจะทำให้ฟันขาวขึ้นจริงไหม

ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าสามารถช่วยให้ขาวขึ้นได้จริง แต่ระดับความขาวที่ขาวขึ้นมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แถโครงสร้างฟันและเนื้อฟันก็ยังปกติดี ไม่มีการทำลายโครงสร้างฟันให้บางลง เพียงแต่อาจรู้สึกเสียวฟันเล็กน้อย เนื่องจากสารฟอกสีฟันจะเข้าไปไปกระตุ้นเม็ดสีในเนื้อฟัน

ส่วนในเรื่องขั้นตอนการทำ จะมีตั้งแต่การขัดฟัน เทียบสีฟัน และลงมือฟอกสีฟันโดยรวมจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึง 1.15 ชั่วโมง โดยในการทำ 1 ครั้ง จะอยู่ได้ 6 เดือน – 1 ปี หรือสูงสุด 3 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้ ถ้าเกิดคนไข้มีพฤติกรรมเช่นสูบบุหรี่ หรือว่าชอบทานอาหารที่ติดสีพวกซอส ซีอิ้ว หรือว่าชา กาแฟ ก็จะทำให้สีกลับไปเป็นสีเหลืองเหมือนเดิมได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ได้กลับไปเหมือนเดิมซะทีเดียว เฉดสีก็จะอยู่ระหว่างสีตั้งต้นกับสีที่ทำเสร็จวันนี้ ก็จะอยู่ขั้นกลาง แต่อาจจะไม่ได้ขาวเท่าหลังทำเสร็จ

นอกจากนี้คุณหมอก็ยังแนะนำว่าถ้าคนไข้กังวลเรื่องความสวยงามมากก็แนะนำให้ทำอย่างน้อยปีละครั้ง แต่ถ้าคนไข้มีความพอใจแล้ว เราก็จะแนะนำเป็นให้ทำฟอกสีฟันที่บ้านเพื่อคงสภาพความขาวนั้นไว้

มาถึงในขั้นตอนการทำ คุณหมอก็แนะนำอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการฟอกสีฟัน ไม่ว่าจะเป็นที่ป้องกันเนื้อเยื่อโดยรอบตรงบริเวณริมฝีปากเพื่อไม่ให้โดนกัด ที่ต้องใช้เพราะสารที่นำมาใช้ฟอกสีฟันมีความเข้มข้นค่อนข้างสูง และก็มีน้ำยาทาเพื่อป้องกันการเสียวฟันกลับไปใช้ที่บ้านโดยมีคำแนะนำอยู่ในกล่องนี้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมี เชตฟอกสีฟันที่จะมีผ้าก็อชเอาไว้แยกเหงือกของเค้าโดยเฉพาะ มีวิตามินอีด้วยเพื่อทาริมฝีปากเพื่อบำรุงริมฝีปากให้ริมฝีปากชุ่มชื้น แล้วก็มีน้ำยาป้องกันเหงือกไม่ให้เหงือกเราโดนกัดสีระหว่างการทำฟอกสีฟันอีกด้วยและที่สำคัญต้องมีเครื่องที่ทำการฟอกสีฟันด้วย โดยเครื่องซูมจะเป็นเครื่องเอาไว้ฉายแสงซึ่งทางบริษัทเค้าจะให้มาพร้อมกับเซตของ ZOOM ซึ่งเครื่องนี้จะช่วยกระตุ้นให้สารทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะต้องใช้ควบคู่กัน ใช้ในการฉายแสงที่ฟัน

ขั้นตอนการฟอกสีฟัน

1.ตรวจสุขภาพฟันภายในช่องปาก หากมีคราบหินปูน คุณหมอจะแนะนำให้ขูดออกก่อน เพื่อให้สีฟันขาวอย่างสม่ำเสมอกันทั้งปาก ของเบสท์ต้องขูดหินปูนก่อนค่ะ

เทียบสีฟัน

2.หลังจากนั้นคุณหมอเทียบเฉดสีฟันเดิม ให้เบสเห็นสีฟันก่อนฟอกสีฟัน หลังฟอกสีฟันเสร็จจะเป็นอย่างไรต้องมาลุ้นกันค่ะ แต่คุณหมอบอกว่าขาวขึ้นแน่นอน แต่จะขึ้นกี่เฉดขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละคนนะคะ

เคลือบเหงือก

3.ทาน้ำยากันขอบเหงือก ป้องกันการละคายเคืองจากน้ำยาฟอกสีฟัน

ทาน้ำยาฟอกสีฟัน

ทาน้ำยาฟอกสีฟันลงบนตัวฟัน ให้ทั่วทุกซี่ที่ยิ้มเห็น
กระตุ้นด้วยเครื่องฟอกสีฟัน ZOOM ทั้งหมด 3 รอบ รอบละ 15 นาที เราจะใช้เวลาในการฟอกสีฟันทั้งหมด 45 นาทีนะคะ
พอฟอกสีฟันเสร็จ คุณหมอเทียบสีฟันหลังฟอกสีฟันให้เบสท์ดู และนำสีเดิมมาเทียบกันด้วย เบสท์เห็นเลยว่าฟันของเบสท์ขาวขึ้นเลยค่ะ

พอหลังเบสทำการฟอกสีฟันระบบ ZOOM เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ก็รู้สึกจริงๆ แบบไม่โกหกเลยว่าทำทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 15 นาที ก็รู้สึกแบบมีความเสียวฟันเล็ก ๆ แต่มันเป็นความเสียวฟันที่ทนได้ เราจะรู้สึกเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาคือประทับใจและก็ชอบมากค่ะ สีฟันคือตอนนี้ทะลุชาร์จไปแล้ว ตอนแรกก็จะเป็นอันที่ขาวที่สุดในชาร์ต แต่ตอนนี้คุณหมอบอกว่าขาวกว่าชาร์จแล้ว

หลังฟอกสีฟัน

จากนั้นเบสท์ก็เลยรบกวนถามคุณหมอถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังจากที่ฟอกสีฟันว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง คุณหมอก็แนะนำว่า หลังจากที่ทำการฟอกสีฟันไปคนไข้ก็จะประสบปัญหาเสียวฟันได้บ้างเล็กน้อยถึงมาก แต่ทั้งนี้อาการเสียวฟันจะค่อยๆดีขึ้น ส่วนใหญ่จะเกิดประมาณ 2-3 วัน และก็จะค่อยๆหายไปเอง ในช่วงระยะเวลา 2-3 วันนี้หากคนไข้มีอาการเสียวฟันมาก หรือเสียวรำคาญ หมอก็แนะนำให้คนไข้รับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวดโดยยาที่ทานเป็นพาราเซตามอลก็เพียงพอแล้ว คนไข้อาจจะใช้วิธีการใช้ยาสีฟันเพื่อบรรเทาอาการแก้เสียว อันนี้ก็จะสามารถช่วยได้

น้ำยาฟอกสีฟัน

ทางบริษัทZOOM ก็มีผลิตภัณฑ์ไปให้เป็นเจลเพื่อทาสำหรับบรรเทาอาการเสียว โดยในเจลนี้ คนไข้พอแปรงฟันเสร็จตอนกลางคืน คนไข้ก็บีบเจลใส่ลงบนแปรงสีฟันแล้วก็แปรงตามปกติเลย อาจจะเน้นบริเวณซี่ที่เสียวหรือตำแหน่งที่เสียวมากที่สุดหน่อย หลังจากนั้นก็ทิ้งเจลไว้ประมาณ 3 นาทีหลังจากนั้นก็บ้วนเจลทิ้ง และงดดื่มน้ำ 30 นาที เพื่อให้เจลทำงานได้เต็มที่ ถ้าคนไข้มีข้อสงสัยสัย ในนี้ก็จะมีคำแนะนำให้อยู่ในกล่องไปด้วย

ลดกาแฟหลังฟอกสีฟัน

ส่วนเรื่องอาหารที่ต้องหลีกเลี่ยง ก็เป็นพวกอาหารหรือเครื่องดื่มที่จะติดสีลงบนตัวฟัน เช่น พวกแกง หรือกาแฟ ซึ่งหากคนไข้ติดกาแฟมีพฤติกรรมต้องบริโภคกาแฟทุกเช้า ก็แนะนำเป็นสามารถทานได้แต่อาจจะดื่มน้ำตามเพื่อชะล้างคราบเหล่านั้น แล้วก็สำหรับการสูบบุหรี่ อาจจะงดได้ก็จะดี แต่ถ้าเกิดหลีกเลี่ยงลดจำนวนลงได้ก็จะช่วยให้ฟันเราขาวได้นานมากขึ้น ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วคุณหมอจะแนะนำให้เลี่ยงอาหารเหล่านี้ประมาณ 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน แต่ถ้าเกิดคนไข้อยากให้ฟันเราขาวได้นานๆ หมอแนะนำให้คนไข้เปลี่ยนพฤติกรรมถาวรเลยจะดีที่สุด

หลังการฟอกสีฟัน

เบสท์ต้องบอกว่าขอบคุณคุณหมอมาก ๆ เลยค่ะ ที่เนรมิตสีฟันที่ขาวและสว่างใสกว่าเดิมให้ ตอนนี้ก็สามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ หลายคนบอกว่า อยากเห็นยิ้มบ้าง ต่อไปนี้จะยิ้มแน่นอนเห็นฟันค่ะ คือแต่ก่อนก็จะมีความรู้สึกว่าตัวเองฟันหน้าใหญ่และมีความหม่น ๆ เหลือง ๆ ก็จะไม่กล้ายิ้ม ยิ้มแค่นี้ ยิ้มก็ปิดปากค่ะ ต่อไปนี้ก็ยิ้มได้อย่างมั่นใจ จะบอกว่าเรื่องของฟันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากนะคะ เป็นการเสริมสร้างบุคลิภาพตัวเอง ถ้าสมมุติว่าเรามีฟันที่มีสีแบบมีความสว่างขึ้น เวลายิ้ม พูด จะมั่นใจขึ้นเยอะมาก ๆ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าทาลิปสีแดงหรือทาลิปสีเข้มๆแล้วจะทำให้ฟันเหลือง เวลายิ้มปุ๊ปจะทำให้เราฟันเหลือง ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปค่ะ แนะนำนะคะสำหรับใครที่อยากจะฟันขาว บอกเลยว่ามันไม่ได้เสียวอย่างที่คิดค่ะ แต่มันมีเสียวนิดหนึ่ง อันนี้ต้องพูดตามควมเป็นจริงค่ะ แต่แนะนำเลยค่ะ สามารถมากันได้นะคะที่ APEX สามารถสอบถามได้นะคะ มีเบอร์มีบริการอย่างอื่นเรียกว่าครบวงจรจริงๆสำหรับที่นี้นะคะ นอกจากเรื่องของฟันยังมีเรื่องของรูปร่างหน้าตาใครอยากดูแลตัวเองก็สามารถมาที่นี่ได้เลยนะคะ ที่ APEX ค่ะ