Quantcast
Channel: Apex Profound Beauty
Viewing all 2628 articles
Browse latest View live

5 ท่าออกกำลังกาย ลดไขมัน ทำแล้วเบิร์นได้ทั้งตัว !

$
0
0

ลดไขมัน
การออกกำลังกายถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างรูปร่างที่ดีได้ เพราะการออกกำลังกายสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้ แต่หลายคนก็มักจะคิดว่าถ้าอยากจะออกกำลังกายให้ได้ผลต้องไปที่ยิม หรือไปออกกำลังกายนอกบ้าน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้านก็สามารถช่วย ลดไขมัน ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ และนี่คือ 5 ท่าออกกำลังกายที่สามารถลดไขมันได้ทั้งตัว ไม่ต้องเสียเวลาออกกำลังกายทีละส่วน แถมทำท่าเหล่านี้เพียง 3 นาที ก็สามารถเบิร์นได้ถึง 50 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว !

ท่าที่ 1

วิธีทำ

  1. ยืนตรง ยกแขนขึ้นให้ศอกขนานกับพื้น
  2. ย่อตัวลงในท่าสควอท 
  3. ยืดตัวขึ้น ยกเข่าซ้ายแตะศอกขวา
  4. ทำสลับไปมาทั้ง 2 ข้าง ติดต่อกัน 10 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต

ท่าที่ 2 

วิธีทำ

  1. ยืนตรง แขนแนบลำตัว
  2. กระโดด ยกขาซ้ายขึ้นตั้งฉาด แล้วตบมือใต้ขาซ้าย
  3. ทำสลับไปมาทั้ง 2 ข้าง ติดต่อกัน 10 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต

ท่าที่ 3 

วิธีทำ

  1. ยืนตรง แขนแนบลำตัว
  2. กระโดดอ้าขา แล้วประกบมือเหนือหัว 
  3. ทำติดต่อกัน 10 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต

ท่าที่ 4

วิธีทำ

  1. ยืนตรง
  2. กระโดดอ้าขา แล้วหุบขา พร้อมกับดันมือทั้ง 2 ข้างตรงไปด้านหน้า
  3. ทำติดต่อกัน 10 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต

ท่าที่ 5 

วิธีทำ

  1. ยืนตรง ประสานมือที่หลังคอ
  2. ยกเข่าซ้ายขึ้น เอียงศอกขวาแตะเข่าซ้าย
  3. ทำสลับไปมาทั้ง 2 ข้าง ติดต่อกัน 10 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต

ท่าออกกำลังกายที่หยิบมานี้ถือว่าเป็นท่าออกกำลังกาย ลดไขมัน ที่ไม่ยากเลยนะคะ ใครที่อยากมีสัดส่วนที่ดีขึ้นด้วยการออกกำลังกายก็อย่าลืมนำไปใช้กัน แต่อย่าลืมว่าการจะมีรูปร่างที่ดีได้การควบคุมอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งยังไม่ควรทำอย่างหักโหมทั้งการควบคุมอาหาร หรือการออกกำลังกาย เพราะไม่อย่างนั้นอาจส่งผลเสียกับร่างกายมากกว่าผลดี

แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้วแต่ก็ยังมีไขมันส่วนเกินเหลืออยู่ และต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กันด้วยแล้วล่ะก็ ล่าสุดมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถช่วยเบิร์นไขมัน และเพิ่มกล้ามเนื้อได้โดยไม่ต้องออกกำลังกายหนัก ๆ เทคโนโลยีนี้ก็คือ EmSculpt นั่นเองค่ะ

EmSculpt เทคโนโลยีการลดสัดส่วนด้วยคลื่นพลังงานอิเล็กโทรแมกเนติก (HIFEM: High-Intensity Focused Electromagnetic Technology) ด้วยการส่งคลื่นพลังงานเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อแบบซูปราแมกซิมอล ทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่การออกกำลังกายไม่สามารถทำได้เกิดการหดเกร็งอย่างรุนแรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ผลที่ได้คือมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น และเกิดการเผาผลาญไขมันไปได้พร้อม ๆ กัน โดยในการทำ 1 ครั้ง ใช้เวลาเพียง 30 นาที ก็สามารถลดไขมันลงได้ 19% และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ถึง 16% ซึ่งถ้าหากทำซ้ำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ รวม 4 ครั้ง จะช่วยให้ผู้เข้ารับบริการมีรูปร่างที่ดีได้อย่างที่ต้องการโดยไม่ต้องออกกำลังกายหนัก ๆ เหมือนเดิมอีกต่อไป

และที่ APEX เราเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยี EmSculpt ที่ได้รับการรับรองจาก US FDA ว่าสามารถช่วยลดสัดส่วนได้จริง เข้ามาให้บริการในประเทศไทย และให้บริการโดนผู้เชี่ยวชาญด้านการลดสัดส่วน ทำให้ผู้เข้ารับบริการสามารถมั่นใจได้ว่าจะมีรูปร่างที่ดีขึ้น และมีกล้ามเนื้อสวย ๆ ได้ดั่งใจด้วย EmSculpt จาก APEX ค่ะ

 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โทร. 088-870-0015
LINE: @apexslim หรือคลิกเลย https://line.me/ti/p/%40APEXslim
FB INBOX: http://m.me/apexslim
FB Page: https://www.facebook.com/ApexSlim/

The post 5 ท่าออกกำลังกาย ลดไขมัน ทำแล้วเบิร์นได้ทั้งตัว ! appeared first on Apex Profound Beauty.


5 ท่าออกกำลังกาย กระชับก้น สวย

$
0
0

กระชับก้น
การมีก้นสวย ๆ ย่อมเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คน เพราะช่วยทำให้ดูเซ็กซี่มากขึ้น ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดี แต่การมีก้นสวย ๆ นั้นจะต้องมีพึ่งการออกกำลังกายอย่างหนัก และเคร่งครัด วันนี้เราเลยขอหยิบ 5 ท่าออกกำลังกาย กระชับก้น สวยมากฝาก ใครอยากมีบั้นท้ายสวย ๆ แซ่บ ๆ ต้องทำตามนี้เลยค่ะ 

ท่า Lunge

วิธีฝึก

  1. ยืนตัวตรง แยกเท้าออกจากกันประมาณช่วงสะโพก มือทั้งสองข้างเท้าเอวไว้
  2. ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าประมาณ 2 – 3 ฟุต ยกส้นเท้าขึ้นเล็กน้อย ปลายเท้าแตะพื้น
  3. ย่อเข่าทั้งสองข้างพร้อมกัน จนเข่าซ้ายทำมุม 90 องศา ค้างไว้ แล้วยกลำตัวขึ้น
  4. กลับสู่ท่าเดิม ทำสลับไปมาข้างละ 10 ครั้ง วันละ 2 – 3 เซต 

ท่า Squats

วิธีฝึก

  1. ยืนลำตัวตรง หลังตรง แยกเท้าทั้งสองข้างออกกว้างเท่าหัวไหล่
  2. ผลักสะโพกไปด้านหลัง แล้วหย่อนสะโพกลง จากนั้นกางหัวเข่าออก
  3. หย่อนสะโพกลงจนต่ำกว่าหัวเข่า แล้วเกรงสะโพก และขา ลุกขึ้นมาอยู่ในท่าเริ่มต้น
  4. กลับสู่ท่าเดิม ทำสลับไปมาข้างละ 10 ครั้ง วันละ 2 – 3 เซต

ท่า Bridges

วิธีฝึก

  1. นอนราบกับพื้น แขนและขาเหยียดตรง
  2. ยกสะโพกขึ้นด้านบน โดยที่ไหล่และยังเท้าสัมผัสกับพื้น
  3. ค้างท่าไว้ครู่หนึ่งแล้ว ลดสะโพกลง กลับสู่ท่าเดิม ทำสลับไปมาข้างละ 10 ครั้ง วันละ 2 – 3 เซต 

ท่า Side-lying leg raise

วิธีฝึก

  1. นอนตะแคงกับพื้นในลักษณะเหยียดขาตรง ใช้ศอก และแขนวางบนพื้น
  2. ดันลำตัวช่วงบนขึ้นโดยที่สะโพกยังคงติดพื้นอยู่ วางมือข้างหนึ่งราบกับพื้นด้านหน้าเพื่อพยุงตัวไว้
  3. ยกต้นขาข้างที่อยู่ด้านบนให้ลอยขึ้นจนรู้สึกเกร็ง ค้างท่าไว้ กลับสู่ท่าเดิม ทำสลับไปมาข้างละ 10 ครั้ง วันละ 2 – 3 เซต

ท่า One-leg kickbacks

วิธีฝึก

  1. คว่ำตัวลง ใช้มือทั้งสองข้างและหัวเข่ายันตัวขึ้น
  2. ยืดขาซ้ายออกไปด้านหลังให้สุด โดยให้ขาขนานกับพื้น หัวเข่าต้องอยู่ในระนาบเดียวกับสะโพก
  3. ทำสลับไปมาข้างละ 10 ครั้ง วันละ 2 – 3 เซต 

ท่าออกกำลังกายกระชับก้นที่หยิบมานี้ถ้าหากคุณสาว ๆ ทำเป็นประจำ และมีวินัยในการออกกำลังกาย รวมทั้งการควบคุมอาหารแล้วล่ะก็ บอกได้เลยค่ะว่าต้องมีก้นที่สวยและเซ็กซี่อย่างแน่นอนเลย แต่ถ้าคุณสาว ๆ พยายามปั้นก้นแค่ไหนแล้วก็ยังไม่สำเร็จ ก็อาจถึงเวลาที่คุณสาว ๆ ต้องพึ่งพาตัวช่วยดี ๆ แล้วล่ะ และวิธีที่เราขอหยิบมาแนะนำก็คือ EmSculpt ค่ะ

EmSculpt เทคโนโลยีการลดสัดส่วนด้วยคลื่นอิเล็กโทรแม็กเนติก (HIFEM: High-Intensity Focused Electromagnetic Technology) ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้มากขึ้น ทำให้ไขมันส่วนเกินที่อยู่ในร่างกายถูกเผาผลาญได้มากขึ้น ผลที่ได้ก็คือกล้ามเนื้อบริเวณที่ทำจะกระชับและสวยมากขึ้นในขณะที่ไขมันส่วนเกินบริเวณดังกล่าวก็จะลดลง จึงทำให้ผู้ใช้มีรูปร่างที่ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันส่วนน้อยและต้องการสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง หรือบริเวณบั้นท้ายโดยไม่ต้องเสียเวลาออกกำลังกายหนัก ๆ

ทั้งนี้ในกระบวนการลดสัดส่วนด้วย EmSculpt เครื่องมือจะส่งคลื่นพลังงานเข้าไปกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ โดยคลื่นพลังงานดังกล่าวจะทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณที่การออกกำลังกายไม่สามารถทำได้ และทำให้เนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อถูกบังคับให้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพการหดเกร็งนี้ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดการสร้างกล้ามเนื้อและการเผาผลาญไขมันไปได้พร้อม ๆ กันในคราวเดียว ขณะที่ในการทำแต่ละครั้งสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณที่ทำได้ถึง 19% และสามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ถึง 16% ซึ่งถ้าหากทำซ้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 2 สัปดาห์รวมทั้งหมด 4 ครั้ง ก็จะช่วยให้สัดส่วนบริเวณที่ทำ EmSculpt ดูดี และเป็นไปอย่างที่คาดหวัง โดยไม่ต้องเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายอีกต่อไป

ได้รู้จักกับตัวช่วยในการปั้นก้นสวยของสาว ๆ ในวงการฮอลลีวูดกันไปแล้ว ถ้าหากสนใจล่ะก็อย่ารอช้านะคะ เพราะล่าสุด APEX ได้นำเอาเทคโนโลยีในการลดสัดส่วนอย่าง EmSculpt ให้บริการเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยมีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา และช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดีได้อย่างปลอดภัย บอกลาก้นใหญ่ย้วย ๆ มา กระชับก้น สวย ด้วยเทคโนโลยี EmSculpt จาก APEX สิคะ แล้วสาว ๆ จะรู้ว่าการมีรูปร่างที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไปค่ะ

 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โทร. 088-870-0015
LINE: @apexslim หรือคลิกเลย https://line.me/ti/p/%40APEXslim
FB INBOX: http://m.me/apexslim
FB Page: https://www.facebook.com/ApexSlim/

The post 5 ท่าออกกำลังกาย กระชับก้น สวย appeared first on Apex Profound Beauty.

The Master of Lifting ยกกระชับ เทคนิคระดับเทพ

$
0
0

The Master of Lifting ยกกระชับ ระดับเทพ

ไม่ว่าจะวงการไหน ๆ ย่อมมีตัวพ่อ ตัวแม่ แห่งวงการจริงไหมคะ? ยิ่งในวงการเสริมความสวยความงามด้วยแล้ว ฝีมือของแพทย์มักจะเป็นอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนให้ความสนใจ ซึ่งความโดดเด่นของแพทย์เสริมความงามจะมีอยู่ด้วยกันหลายด้านค่ะ ซึ่งในบทความนี้เราขอยกตัวพ่อและตัวแม่ของด้านการ ยกกระชับ ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ด้วยหัตถการต่าง ๆ อย่างเช่น โบท็อกซ์ (Botox) ฟิลเลอร์ (Filler) เทอร์มาจ (Thermage) อัลเทอร่า (Ulthera) มาให้คุณ ๆ ได้รู้จักกัน แม้จะใช้หัตถการที่เหมือนกัน แต่คุณหมอทุกท่านจะมีเทคนิคเฉพาะที่เป็น Signature ประจำตัว ที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกัน หมอคนไหนเทพแบบไหนมาตามอ่านกันค่ะ 

โบท็อกซ์ หมอนัน หมอ ยกกระชับ
คุณหมอนัน─แพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ
คุณหมอนัน─แพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ : เทพแห่งตำนาน ฉายา Queen of Botox

ถ้าเป็นเรื่องความแม่นยำในการฉีด รู้จักทุกชั้นผิว ทุกมัดกล้ามเนื้อบนใบหน้า คงไม่มีใครเกิน คุณหมอนัน─แพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ไปได้ค่ะ เพราะประสบการณ์ที่มีมากว่า 30 ปี ในด้านการฉีด ยกกระชับ ปรับรูปใบหน้า อีกทั้งยังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเป็นอาจารย์สอนด้านศัลยศาสตร์ผิวพรรณ ที่ศูนย์เลเซอร์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงการได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องศัลยศาสตร์ผิวพรรณอยู่บ่อยครั้ง

คุณหมอนันเป็นผู้ก่อตั้ง APEX Profound Beauty ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่บุกเบิกการใช้สารลดเลือนริ้วรอย (Botulinum Toxin A) หรือ โบท็อกซ์ที่ใคร ๆ รู้จักกัน และสารเติมเต็ม (HA Filler) กลุ่มแรกของประเทศไทยเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว จนได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชียแปซิฟิคกับประสบการณ์การฉีด Botox มากที่สุดเป็นคนแรกของประเทศไทยถึง 8 ปีซ้อน จนได้รับสมญานามว่า Botox Queen และคุณหมอนันยังคิดค้นและพัฒนาเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ใหม่ ๆ ขึ้น เพื่อมุ่งสร้างทีมแพทย์สายฉีดในองค์กรให้มีความเชี่ยวชาญไม่แพ้ใครอีกด้วย

Most Treatments Throughout the World 2011

Most Treatments Throughout the World 2011

นอกจากจะเป็นแพทย์สายฉีดมือฉมังแล้ว เรื่องเครื่องมือคุณหมอก็ไม่เป็นสองรองใคร คุณหมอเป็นผู้เริ่มใช้เทคโนโลยี ยกกระชับ อย่าง Thermage และ Ulthera ในประเทศไทยและเป็นผู้เดียวที่ทำ Ulthera มากที่สุดในโลก จนได้รับรางวัล Most Treatments Throughout the World ในปี 2011

คุณหมอเอก นพ. เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร เอเพ็กซ์ หมอ ยกกระชับ
คุณหมอเอก―เรือเอก นายแพทย์เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร
คุณหมอเอก─เรือเอก นายแพทย์เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร : เทพแห่งการศัลยกรรมยกหน้าด้วยเครื่องและเข็ม

ฉายานี้คุณหมอเอกได้มาเพราะผลลัพธ์ของการ ยกกระชับ ด้วย Thermage Ulthera Botox และ Filler ที่คุณหมอทำจนได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการศัลยกรรมดึงหน้า แต่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น!! จนคนไข้มอบฉายานี้ให้

ยกกระชับ ระดับเทพ

ยกกระชับ ระดับเทพ

คุณหมอเอกเป็น Aesthetic Surgeon ที่มีประสบการณ์ระดับอาจารย์สอนการฉีด Botox Filler ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าของบริษัท Allergan ซึ่งคุณหมอเอกเป็นแพทย์ผู้ฝึกสอนการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์เพียงไม่กี่คนจากประเทศไทย ที่ทำหน้าที่ในการเทรนเรื่องการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ ให้กับแพทย์ไทยและต่างชาติทั่วทวีปเอเชียและยุโรป

นอกจากคุณหมอเอกจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการฉีดลดริ้วรอยแล้ว ในเรื่องของการใช้เครื่อง ยกกระชับ อย่างอัลเทอร่าหรือเทอร์มาจ คุณหมอเอกก็เชี่ยวชาญไม่แพ้กันนะคะ ระดับ Aesthetic Surgeon ไม่ว่าจะเรื่องฉีดยกกระชับ หรือใช้เครื่องยกกระชับ ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาใกล้เคียงกับการทำศัลยกรรมเลยทีเดียว และคุณหมอยังมีเทคนิคการทำแบบ Business Class ยกแบบสบาย ๆ ไม่เจ็บแต่ผลลัพธ์พรีเมี่ยม ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงต้องจองคิวปรึกษาคุณหมอแล้วล่ะค่ะ

คุณหมออาร์ม หรือ คุณหมอเนะ นายแพทย์ภาวิต หน่อไชย ยกกระชับ แบบผสมผสาน เอเพ็กซฺ
คุณหมออาร์ม─นายแพทย์ภาวิต หน่อไชย
คุณหมออาร์ม─นายแพทย์ภาวิต หน่อไชย : เทพแห่งการยกกระชับแบบผสมผสาน

‘ความงามคือผลลัพธ์ของปาฏิหาริย์จากภายใน’ คือคอนเซปต์รักษาแนวผสมผสานของคุณหมออาร์ม─นายแพทย์ภาวิต หน่อไชย หรืออาจารย์เนะของเหล่าลูกศิษย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการ ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ได้รับ Certified ทั้งฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เทอร์มาจ อัลเทอร่า และยังจบ Master Degree of Science in Antiaging and Regenerative Medicine เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรภาควิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ คุณหมออาร์มเน้นวิธีการรักษาแบบผสมผสานระหว่างการทำหัตถการเสริมความงามต่าง ๆ กับเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ เข้าด้วยกัน

เวชศาสตร์ชะลอวัย

หากกลไกการสังเคราะห์และกระตุ้นสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายไม่ดีพอ ต่อให้ฉีดเสริมเติมสารอะไรเข้าไป ผลลัพธ์ที่อยากได้อาจไม่เป็นดังคาด เวชศาสตร์ชะลอวัย หรือ Antiaging ที่หลายคนคุ้นหู เมื่อนำมาผสมผสานกับหัตถการเสริมความงามตามแบบฉบับคุณหมออาร์มแล้ว นอกจากจะช่วยเรื่องการลดริ้วรอย ยกกระชับผิวพรรณที่เห็นได้จากภายนอกแล้ว ยังช่วยเสริมระบบภายในร่างกายควบคู่กันไป เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่ทำให้เด็กตั้งแต่หน้ายันเซลล์เลยทีเดียว

ใครกำลังคิดอยากจะยกกระชับหรือฉีด Botox Filler สามารถเลือกปรึกษาอาจารย์แพทย์ของเราตามความชอบของคุณได้เลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายไหนเราก็รับรองว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่สวยและเป็นธรรมชาติ สามารถเช็คคิวและจองคิวอาจารย์แพทย์ของเรา ได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ

The post The Master of Lifting ยกกระชับ เทคนิคระดับเทพ appeared first on Apex Profound Beauty.

แก้จมูก ครั้งสุดท้ายอย่างไรให้เจ็บแล้วจบ

$
0
0

แก้จมูก

การทำจมูกนั้นเป็นการทำศัลยกรรมที่เรียกได้ว่าติดท็อปหนึ่งในสามของใครหลาย ๆ คนที่กำลังสนใจเรื่องของการศัลยกรรมที่เลือกทำ เนื่องจากสามารถเห็นผลได้ชัด ใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การทำจมูกนั้นเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ยุค 90’s แล้ว แต่บางครั้งการทำจมูกในครั้งแรกนั้นไม่เป็นไปตามที่ต้องการ บางคนอาจเจอปัญหาไปถึงขั้นจมูกรั้ง จมูกเบี้ยว จนทำให้เกิดการ แก้จมูก หลายต่อหลายครั้ง หรือบางคนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดอาการแก้หรือเกิดการต่อต้านขึ้นมาได้

 การทำจมูกในยุค 90’s

ต้องเล่าก่อนว่าการทำจมูกในยุค 90’s ไม่ได้มีตัวเลือกให้ได้ใช้เยอะมาก ทั้งซิลิโคนที่ถูกนำมาใช้ในขณะนั้น หรือกระดูกในส่วนต่าง ๆ ที่เอามาใช้ในการเสริมจมูกนั้นก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมาก เช่นการนำกระดูกซี่โครงทั้งแท่งออกมาเหลาให้เป็นแท่งก่อนจะนำกลับมาเสริมจมูก ซึ่งการใช้กระดูกซี่โครงทั้งแท่งในยุคสมัยนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และเรียกได้ว่าน่ากลัวมาก ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนานำเอาซิลิโคนแข็งมาเหลาเป็นแท่งแล้วนำมาเสริมแทนวิธีเดิม โดยการผ่าตัดเสริมจมูกในยุคก่อนนั้น ส่วนมากมักจะเป็นวิธีแบบปิด ( Close Rhino ) และซิลิโคนที่ถูกนำมาเสริมจมูกจะคงอยู่ไปตลอด เนื่องจากเป็นการผ่าตัดแบบปิดอาจทำให้เกิดการใส่ซิลิโคนที่เบี้ยว คด ไม่ตรงจุดที่ต้องการ และในที่สุดจำเป็นจะต้องแก้ไขจมูกหลายต่อหลายครั้งตามมานั้นเอง

 สาเหตุหลักที่ทำให้หลาย ๆ คนจะต้องแก้จมูกใหม่ซ้ำ ๆ

          เบี้ยว คด เอียง

          ทรงจมูกดูยาวหรือสั้นเกินไป

          ปลายบางใกล้ทะลุ

          ซิลิโคนทะลุ อักเสบเป็นหนอง

          ซิลิโคนมีขนาดสั้นเกินไป ดูเชิ่ดสูงตั้งแต่แรก ไม่สวยเข้ารูป

          เกิดการหดรั้งจนเห็นชัดว่าจมูกรั้งขึ้น

          เกิดการหดรั้งจนเห็นชัดว่าเชิดขึ้น โดยปกติแล้วเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย แอนตีบอดีของร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นมาในลักษณะคล้ายแคปซูลเพื่อห่อหุ้มสิ่งแปลปลอม เมื่อผ่านเวลาไปแคปซูลที่ห่อหุ้มเกิดการหดตัวทำให้จมูกดูสั้นขึ้นอย่างชัดเจน ในบางกรณีอาจเกิดอาการเชิดขึ้นสูงกว่าเดิม

 จมูกไม่ได้มีปัญหาแต่อยากแก้ควรทำอย่างไร? 

ปัญหาสุดท้ายคือความไม่พึงพอใจของคนไข้ ไม่พอใจเรื่องทรงจมูก คนไข้ก็สามารถเอารูปทรงจมูกที่อยากได้มาให้คุณหมอดูก่อน แล้วมาช่วยกันวิเคราะห์หาแนวทางที่สามารถทำให้เป็นไปได้ ต้องดูหลากหลายองค์ประกอบทั้งเรื่องโครงสร้างของจมูก กระดูกอ่อนของจมูก ปลายจมูก หนังที่หุ้มมีความหนาความบางอย่างไร ปีกจมูก หรือแกนกลางจมูกเบี้ยวหรือไม่เบี้ยว

จมูกกระดูกอ่อนละเอียด

 จำเป็นไหมต้องใช้กระดูกอ่อนซี่โครง?

        การเสริมจมูกกระดูกอ่อนละเอียดเป็นการนำเอาผิวชั้นนอกของกระดูกซี่โครงมาผ่านกรรมวิธีเพื่อให้ได้กระดูกอ่อนที่มีอนุภาคเล็กเพื่อมาใช้ขึ้นเป็นโครงก่อนจะตกแต่งให้เป็นทรงตามที่ต้องการ การใช้เทคนิคกระดูกอ่อนละเอียดนี้เป็นเทคนิคพิเศษที่มีที่ Apex ที่เดียวเท่านั้น ในการเสริมจมูก แบบนี้จะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้จากภายในร่างกายเนื่องจากเป็นการนำเอาวัสดุตัวเองมาใช้ในการเสริมจมูกซึ่งจะแตกต่างจากการใช้ซิลิโคน เนื่องจากการใช้ซิลิโคนในการเสริมจมูกนั้นอาจเกิดปัญหาในด้านอาการต่อต้านจากร่างกาย อาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากเสริมจมูก และเมื่อเสริมจมูกแล้ว ร่างกายจะไม่เกิดการต่อต้านเนื่องจากอนุภาคเล็กของกระดูกอ่อนจะสมานกันจนกลายเป็นกระดูกอ่อนถาวร ทำให้ไม่เกิดอาการบีบรั้งจนจมูกเชิดสูง ดูเป็นทรงธรรมชาติแน่นอน

จมูกbrforeจมูกafter

ซึ่ง APEX เป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยที่ใช้เทคนิคกระดูกอ่อนละเอียดในการเสริมจมูก โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา และคำแนะนำในการเสริมจมูก ซึ่งเรียกได้ว่ากำลังเป็นที่นิยมเพราะทรงสวยได้รูปตามที่ต้องการ อีกทั้งห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานระดับสากล จึงมั่นใจได้ว่าทาง APEX จะช่วยดูแลทางลูกค้าให้ได้รูปทรงจมูกที่เป็นธรรมชาติ แก้ไขปัญหาที่กวนใจได้อย่างตรงจุดแน่นอนค่ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ แก้จมูก หรือการ เสริมจมูก กระดูกอ่อนละเอียด

โทร : 0888-7000-39 , 0888-7000-16
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurgery

 

The post แก้จมูก ครั้งสุดท้ายอย่างไรให้เจ็บแล้วจบ appeared first on Apex Profound Beauty.

จิ๋มตด ขณะมีเพศสัมพันธ์ เรื่องน่าอายที่ต้องรีบแก้

$
0
0

จิ๋มตด

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสาว ๆ ทุกคนก็ล้วนอยากจะให้คนรักของตัวเองประทับใจในความแซ่บของตัวเอง เพราะนอกจากจะช่วยให้กิจกรรมบนเตียงร้อนฉ่าแล้ว ก็ยังมัดใจหนุ่ม ๆ ให้ไปไหนไม่รอดอีกด้วย แต่ก็มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ความแซ่บต้องสะดุด เปลี่ยนเป็นความรู้สึกอายแทน เพราะอาการลมออกจากช่องคลอด หรือ จิ๋มตด จนพาลทำให้เรื่องบนเตียงไปไม่ถึงฝั่งฝันอย่างที่ควรจะเป็น

จิ๋มตด หรือภาวะลมออกจากช่องคลอด เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นในขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือขณะออกกำลังกาย และถึงแม้ว่าปัญหานี้จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้หญิง แต่ก็แสดงว่าสาว ๆ ได้ทราบว่าช่องคลอดของคุณสาว ๆ กำลังเริ่มขาดความกระชับจนทำให้ลมเข้าไปอยู่ภายในช่องคลอดได้ ทั้งนี้ ปัญหาจิ๋มตดมักเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ผ่านการคลอดบุตรมาแล้ว เนื่องจากเมื่อผ่านการคลอดบุตร บริเวณช่องคลอดจะเกิดความเปลี่ยนแปลง ความกระชับก็จะลดลงจนทำให้อากาศเข้าไปอยู่ภายในช่องคลอดได้

อย่างไรก็ตาม ปัญหาลมออกจากช่องคลอดนี้ ไม่ใช่อาการที่อันตรายค่ะ เพียงแต่อาจจะทำให้ผู้หญิงขาดความมั่นใจ และรู้สึกในขณะมีกิจกรรมรัก ทว่าปัญหานี้ก็ไม่ควรละเลย เนื่องจากหากปล่อยให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน และช่องคลอดเกิดความร่วงโรยมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพผู้หญิงตามมาได้ เช่น อาการปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และความหย่อนคล้อยอาจทำให้ความสุขทางเพศลดลง เมื่อเรื่องบนเตียงไม่ดีเหมือนเก่า ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์อาจเกิดขึ้นและทำให้ขาเตียงสั่นคลอนได้เลยนะคะ !

ได้ทราบแบบนี้แล้วก็อย่าเพิ่งตกใจค่ะ เพราะในปัจจุบันปัญหาจิ๋มตดสามารถแก้ไขได้แล้วล่ะค่ะ โดยอาจเริ่มจากการดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายกระชับช่องคลอด หรือถ้าหากช่องคลอดเริ่มเกิดความหย่อนคล้อยมาก ๆ หลายคนก็อาจจะเลือกผ่าตัดรีแพร์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน แต่ถ้าหากไม่อยากเสียเวลาออกกำลังกาย หรือไม่อยากถึงขั้นต้องผ่าตัด เราก็มีอีกหนึ่งวิธีมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือ Vaginal Lift ค่ะ

Vaginal Lift เทคโนโลยีการกระชับช่องคลอดด้วยคลื่นพลังงานที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยคลื่นพลังงานจะถูกส่งผ่านอุปกรณ์ชนิดพิเศษเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของกล้ามเนื้อผนังช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดและกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานกระชับขึ้น และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารหล่อลื่นมากขึ้น ทำให้ปัญหาจุดซ่อนเร้นอย่าง ช่องคลอดไม่กระชับ ปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือแม้แต่ปัญหาช่องคลอดแห้งลดลงได้ตั้งแต่หลังจากการทำครั้งแรก ไม่เพียงเท่านั้น Vaginal Lift ยังช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับบริเวณจุดซ่อนเร้นภายนอกได้อีกด้วย เรียกว่าดีขึ้นตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกโดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ยุ่งยากหรือต้องรอคอยผลนานเหมือนการกระชับช่องคลอดแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

และที่ APEX เรามีเทคโนโลยี Vaginal Lift ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพผู้หญิงอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลตลอดการรักษา เพื่อให้ผู้หญิงกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง อย่างปล่อยให้จิ๋มตด ทำให้กิจกรรมรักต้องสะดุด รีบแก้ด้วย Vaginal Lift ดีกว่าค่ะ รับรองว่าแซ่บแน่นอน !

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 062 709 6849, 063 310 8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen

The post จิ๋มตด ขณะมีเพศสัมพันธ์ เรื่องน่าอายที่ต้องรีบแก้ appeared first on Apex Profound Beauty.

Therma Thread 2 พลังยกแน่นกว่าเดิม

$
0
0

Thermage Thread เทอร์มาจ + ร้อยไหม 2 พลังยกกระชับ

เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยในการเสริมความงามถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็น เทอร์มาจ (Thermage) ร้อยไหม (Thread) อัลเทอร่า (Ulthera) โบท็อกซ์ (Botox) ฟิลเลอร์ (Filler) ที่ช่วยให้คุณดูดีขึ้นได้ทันตาเห็น ราวกับมีเวทมนตร์โดยมีคุณหมอเป็นผู้เสกสรรให้แบบตรงใจ แต่บางครั้งการเสริมความงามด้วยหัตถการเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง อาจไม่ได้ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวพรรณแห่งวัยที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะริ้วรอยลึกตามร่องแก้ม หางตา บนหน้าผาก ความหย่อนคล้อยเนื่องจากสูญเสียคอลลาเจนค้ำยันใต้ผิวหนัง สัญญาณแห่งวัยเหล่านี้ จะให้หลีกเลี่ยงหรือชะลอไว้ด้วยตัวเองคงไม่ง่ายนัก หากคุณไม่ใช่คนที่ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

การทำหัตถการเพียงหนึ่งอย่างอาจจะพอแล้วสำหรับบางคน แต่ในอีกหลาย  ๆ คนไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ในบางครั้งการรักษาจึงต้องมีการใช้หัตถการตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไป เพื่อช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น รวมถึงช่วยส่งเสริมผลลัพธ์ของกันและกันให้ดีมากขึ้นไปอีก มีหัตถการหลายอย่างที่สามารถใช้รักษาควบคู่กันไปได้ แต่ในบทความนี้ เราจะขอยกเทคนิคใหม่! ที่ชื่อว่า ‘Therma Thread’ ซึ่งเป็นการรวม 2 นวัตกรรมยกกระชับหน้าเข้าด้วยกัน คือนวัตกรรมยกกระชับให้หน้าเรียวเล็กอย่าง เทอร์มาจ (Thermage) และ ร้อยไหม (Thread) ยกหน้าควบคู่กัน เพื่อเพิ่มพลังยกกระชับผิวให้แน่นกว่าเดิมและกระตุ้นคอลลาเจนมากกว่าเดิม ทั้ง 2 พลังนี้จะช่วยเสริมกันได้อย่างไรบ้าง ลองมาอ่านกันดูค่ะ

เทอร์มาจ หน้าเรียว ลดเหนียง

เทอร์มาจ (Thermage) คือ นวัตกรรมความงามช่วยยกกระชับผิวด้วยการส่งเคลื่อนวิทยุ (RF : Radio Frequency) ความถี่สูงเพื่อเข้าช่วยยกกระชับผิว ปรับรูปหน้า ยกคิ้ว จัดกรอบหน้า โดยความร้อนที่ออกจากคลื่นวิทยุของเครื่องเทอร์มาจจะมีความสม่ำเสมอ และถูกส่งลงลึกสู่ชั้นผิวหนัง Dermis (ชั้นผิวหนังแท้) ช่วยกระตุ้นสร้างและช่วยในการจัดเรียงตัวของคอลลาเจนกับอิลาสติน เมื่อทั้งสองมีการจัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบจึงทำให้ผิวดูแน่นยกกระชับขึ้น โครงสร้างของผิวดูเรียบเนียน สดใส แข็งแรง และมีชีวิตชีวา

Thermage เป็นเครื่องมือยกกระชับใบหน้าและสัดส่วนที่ได้รับความนิยมสูงไม่แพ้หัตถการอื่น ๆ เพราะเทอร์มาจช่วยยกกระชับแบบที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องลงมีด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น แถมเห็นผลลัพธ์ไว ซึ่งหลังจากทำเสร็จแล้วจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้แทบจะทันที โดยจะเห็นว่าหน้าดูยกขึ้น ผิวดูเรียบเนียนขึ้นประมาณ 20% ของผลลัพธ์จริง และสังเกตเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นในเดือนที่ 2-3 ผิวหน้าจะดูยกและเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ ในการทำ เทอร์มาจ 1 ครั้ง ระยะเวลาของผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปีเลยค่ะ

เทอร์มาจ สามารถทำได้ทั้งบนใบหน้าและลำตัว แต่จะเหมาะที่สุดกับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่แน่น ไม่สปริงตัว มีรอยร่องแก้มลึก หนังตาตก คิ้วตก ต้องการยกคิ้ว และยังเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้าตรงแก้มเยอะ หรือผู้ที่มีปัญหาผิวตัวไม่เรียบเนียน มีเซลลูไลท์ (Cellulite) ก็สามารถทำได้ค่ะ

การร้อยไหม ยกกระชับ หน้าเรียว

ร้อยไหม (Thread Lift) คือ การใช้เส้นไหมจำนวนหนึ่ง (จำนวนเส้น ขนาด และประเภทของเส้นไหม จะขึ้นอยู่กับรูปหน้าคนไข้และการประเมินของแพทย์ร่วมด้วย) มาร้อยเป็นตาข่ายเข้าไปใต้ผิวหนังชั้นไขมัน เพื่อให้บริเวณผิวที่ร้อยไหมเข้าไปถูกกระตุ้นทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ ส่งผลถึงการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่พันรอบแนวเส้นไหมเอาไว้

เมื่อ ร้อยไหม เข้าไปจะเกิดการดึงรั้งผิวหน้าหรือบริเวณที่ร้อย ผิวจะเต่งตึงยกกระชับ ไม่หย่อนคล้อย ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้ไปเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้น เห็นผลลัพธ์หลังร้อยไหมทันทีประมาณ 20-50% ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม และเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังจากผ่านไปแล้ว 1-2 เดือน ระยะเวลาในการคงอยู่ของผลลัพธ์มีตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 2 ปี

การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยและการหย่อนคล้อยไม่มากนัก อายุที่เหมาะในการทำแนะนำเป็นช่วงอายุตั้งแต่ 30 – 60 ปี หากอายุน้อยกว่านั้นอาจยังไม่ค่อยคุ้มที่จะทำนะคะ

เครื่องเทอร์มาจ ยกกระชับ

ร้อยไหมยกกระชับ

เทคนิคยกหน้า ‘Therma-Thread’ เทอร์มาจ + ร้อยไหม 2 พลังยกแน่นกว่าเดิม

อย่างที่กล่าวไปตอนเริ่มค่ะ ว่าการแก้ปัญหาแห่งวัยไม่ใช่ว่าทำหัตถการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วจะเพียงพอ ดังนั้นในการเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอ จะมีบ่อยครั้งที่คุณหมอแนะนำให้ทำหัตถการ 2 อย่าง ควบคู่กันไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม ชัดเจนกว่าเดิม

เทคนิค Therma-Thread หรือการทำ Thermage (เทอร์มาจ) และ Thread (ร้อยไหม) ควบคู่กันเป็นการคิดค้นและทดลองผลลัพธ์โดยทีมแพทย์ APEX ซึ่งการคิดค้นนี้เกิดจากปัญหาของคนไข้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไขมันบนหน้าเยอะ และมีกระเปาะก้อนไขมันบริเวณร่องน้ำหมากหรือมุมปากล่าง ซึ่งหากความเต่งตึงของผิวเริ่มหายไป แถมยังมีไขมันสะสมบริเวณแก้มเยอะเป็นพิเศษ จนผิวส่วนเกินนั้นหย่อนคล้อยลงมา เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพจนไม่มีที่ค้ำยัน แล้วคุณต้องการกำจัดแก้มย้อย ๆ ยกกระชับผิวให้กลับมาแน่นเต่งตึง ปรับรูปหน้า สร้างกรอบหน้าให้ชัดเป็น V Shape การทำเทอร์มาจเพื่อกระตุ้นสร้างและจัดเรียงคอลลาเจน อิลาสตินอาจจะไม่ได้รับผลลัพธ์ที่พอใจเท่าที่ควรเนื่องจากปัญหาที่เยอะของคนไข้

แต่การ ร้อยไหม (Thread) พร้อมกับการทำ Thermage จะเป็นการเสริมโครงสร้างใต้ผิวให้แน่นกระชับ ถ้าอธิบายให้เห็นภาพก็คือไหมทำหน้าที่เหมือนโครงเสา เมื่อโดนกระตุ้นคอลลาเจนโดย Thermage คอลลาเจนที่สร้างใหม่นั้น จะไปยึดเกาะบริเวณเสาทำให้คอลลาเจนเรียงตัวสวยและแข็งแรง ส่งผลให้หน้ายกได้มากขึ้น ผิวดูเนียนขึ้น ผิวตึงกระชับ ช่วยเก็บกรอบหน้า สร้างหน้าวีให้คุณแบบชัดเจนขึ้นอีก แถมยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเพิ่มให้อีกด้วยนะคะ ผิวพรรณก็จะเต่งตึงยกกระชับกันแบบคูณสองเลยทีเดียว และการที่ต้องร้อยไหมหลัง เทอร์มาจ เพราะว่าเพื่อป้องกันไม่ให้พลังงานความร้อนจากเครื่องเทอร์มาจ ไปทำปฏิกิริยากับเส้นไหมจนละลายไวกว่าอายุจริงของผลลัพธ์ นั่นเองค่ะ 

เทคนิคการรวมพลังระหว่าง 2 หัตถการยกกระชับ ไม่ได้มีแค่การทำ เทอร์มาจ และร้อยไหม นะคะ ทางทีมแพทย์ APEX ยังคิดค้นเทคนิคเฉพาะอีกมากมาย หัตถการอื่น ๆ ก็สามารถทำร่วมกันได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วย เพื่อการบอกลาปัญหาแห่งวัยได้อย่างตรงจุด พร้อมได้ผลลัพธ์ที่ดีและเป็นธรรมชาติ

อยากปรึกษาเรื่องการยกกระชับ สามารถส่งข้อซักถามของคุณเข้ามาได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ หรือหากต้องการประเมินปัญหากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง สามารถจองคิวผ่านทาง Line@ ได้เช่นกันค่ะ

The post Therma Thread 2 พลังยกแน่นกว่าเดิม appeared first on Apex Profound Beauty.

วางแผนศัลยกรรม หน้าเด็ก ต้องพักฟื้นกี่วัน

$
0
0

หน้าเด็ก
ปัจจุบันนั้นเรื่องของความสวยความงามนั้นเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่ไม่เพียงผู้หญิงเท่านั้นที่หันมาสนใจตัวเอง หลาย ๆ คนนั้นตระหนักได้ถึงเรื่องของการดูแลตัวเองมากขึ้นทั้งในด้านการทานอาหาร การออกกำลังกาย และยังรวมไปถึงการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองในเรื่องของใบหน้าและรูปร่างด้วยการทำศัลยกรรม ซึ่งหนึ่งในศัลยกรรมที่เป็นที่นิยมนั่นคือการทำศัลยกรรมดึงหน้าเพื่อให้ใบ หน้าเด็ก ลงเสมือนลดอายุลงนั้นเอง

การทำศัลยกรรมดึงหน้าส่องกล้องปักหมุด

Endoscopic Endotine Brow Lift คือเทคนิคการยกคิ้วและยกหน้าผากโดยใช้เทคนิคการส่องกล้องและใช้หมุดชนิดพิเศษในการดึงยึดชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งการใช้หมุดชนิดพิเศษนี้จะดึงกล้ามเนื้อขึ้นและสามารถดึงหน้าได้พื้นที่กว้างกว่าการดึงหน้าด้วยไหมในแบบเดิม ๆ สามารถยกระดับคิ้วได้มากกว่า 6 มิลลิเมตร ไร้รอยแผลผ่าตัดบนใบหน้า ดังนั้นจึงจะไม่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าแน่นอน ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ สามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนานอย่างน้อย 5-7 ปี และยังช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงปัญหาการหดตัวของเนื้อเยื่อบริเวณชั้นกล้ามเนื้อหลังการผ่าตัดได้อีกด้วย

ดึงหน้า คุณขวัญ

ข้อดีของการทำศัลยกรรมดึงหน้าส่องกล้องปักหมุด

  • ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของหนังตาตก รอยแผลเล็ก ไม่มีแผลเป็นบนใบหน้า
  • ผลข้างเคียงน้อยกว่าการผ่าตัดด้วยไหมในแบบเดิม ๆ 
  • ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่มากกว่า และลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตาได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้ใบหน้าดูเด็กลงเสมือนลดอายุและสวยในแบบที่เป็นคุณที่ดูเด็กกว่า
  • ไม่มีสารหรือสิ่งตกค้างในร้างกาย และไม่จำเป็นที่จะต้องนำหมุดชนิดพิเศษที่ยกหน้าผากอยู่ออกจากร่างกาย เนื่องจากหมุดชนิดนี้นั้นสามารถย่อยสลายไปเองได้หลังจากเนื้อเยื่อที่ยึดเกาะชั้นกล้ามเนื้อนั้นเกาะเข้าที่และบาดแผลหายดีแล้ว
  • อาการเจ็บปวด หรืออาการบวมบนใบหน้าน้อย ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่เข้าวันที่ 3 หลังจากการผ่าตัด
  • ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดจะอยู่ได้นานถึง 5-7 ปีเลยทีเดียว
    Endotine

การดูแลตัวเองหลังจากผ่าตัดดึงหน้าส่องกล้องปักหมุด

 

  • ใส่ผ้ารัดหน้าตลอดเวลาเป็นเวลา 3-5 วันเพื่อช่วยยกกระชับจากภายนอกอีกทาง

 

  • หลังจากนั้นใส่ผ้ารัดหน้าเฉพาะเวลากลางคืนเป็นเวลา 1 เดือน
  • หากจำเป็นจะต้องออกไปข้างนอก ควรใส่แว่นดำ ผ้าคาด ผ้ารัดหน้าหรือหมวกเพื่อป้องการถูกกระแทกหรือการโดนมลภาวะ เพื่อช่วยให้บาดแผลดีขึ้น

ใครที่กำลังเลใจเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม กังวลเกี่ยวกับปัญหาในการทำ หรือกำลังสนใจในเรื่องของข้อดีและการดูแลตัวเองหลังจากการส่องกล้องปักหมุดก็ไม่ต้องนั่งกุมขมับกันอีกต่อไป เพราะที่ APEX เรามีเทคโนโลยีดึงหน้าส่องกล้องปักหมุด และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้คำแนะนำ และช่วยเปลี่ยนแปลงตัวคุณให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง อีกทั้งยังสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย เพราะที่ APEX เรามีห้องผ่าตัดมาตรฐานระดับสากล และอุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้รับมาตรฐานระดับสากล จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ตรงตามความคาดหวังที่คุณต้องการแน่นอนค่ะ

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการใบ หน้าเด็ก ย้อนวัย ด้วยเทคนิคดึงหน้า ส่องกล้องปักหมุด

โทร : 0888-7000-39
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurger

 

The post วางแผนศัลยกรรม หน้าเด็ก ต้องพักฟื้นกี่วัน appeared first on Apex Profound Beauty.

ทำศัลยกรรม ดึงหน้า ดึงคอแล้ว ต้องพักฟื้นกี่วัน

$
0
0

ดึงหน้า
ปัจจุบันการดูแลตัวเองของเรานั้นมีหลากหลายวิธี ทั้งในด้านสุขภาพและความสวยความงาม หลาย ๆ คนนั้นให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้นทุกปีทำให้ใบหน้าที่บำรุงมาโดยตลอดนั้นเริ่มหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียนหรือกระชับเท่าเดิม ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย เหี่ยวย่นจนต้องหาตัวช่วยมากมายเพื่อช่วยให้ดูสดใส อ่อนวัย ดูเด็กเป็นธรรมชาติ เช่นการฉีดฟิลเลอร์ การร้อยไหม แต่มันช่วยได้แค่ระยะสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันนั้นได้มีวิธีใหม่ที่ได้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้อย่างยาวนาน ซึ่งในวันนี้เรามีข้อมูลของการ ดึงหน้า และดึงคอมาฝากกันค่ะ

Face And Neck Lift เทคนิคยกกระชับ ดึงหน้า และคอ

ปัญหาโดยทั่วไปของเรานอกจากริ้วรอยบริเวณหางตาและหน้าผากแล้ว บริเวณใบหน้าช่วงล่างตั้งแต่บริเวณแก้มไปจนปลายคางและลำคอก็เรียกว่าเป็นอีกจุดที่เป็นปัญหากังวลใจเป็นอย่างมาก สำหรับหลายคนที่วัยเริ่มเพิ่มขึ้นจนเข้าเลข 4 หรือคนที่มีอาการอ้วนหรือผอมอย่างรวดเร็วเป็นผลให้ใบหน้าช่วงล่างและคอห้อยย้อยลงมาอย่างเห็นได้ชัด และดูแก่เกินกว่าวัยจริง ๆ ส่งผลให้เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความกังวลใจต่อใครหลายคนเป็นอย่างมาก ซึ่งศัลยแพทย์มักจะเลือกใช้วิธี Face And Neck Lift เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นวิธีในการเก็บผิวหนังบริเวณส่วนเกินของใบหน้าช่วงล่างและบริเวณลำคอขึ้นเพื่อสร้างกรอบหน้าให้ชัดและยกกระชับบริเวณใบหน้าช่วงล่างและลำคอขึ้นเพื่อให้ดูมีมิติอีกด้วย

ใครที่เหมาะต่อการทำ Face And Neck Lift  

  • คนที่มีปัญหาในเรื่องของร่องแก้มลึก ผิวหน้าที่หย่อยคล้อยอย่างเห็นได้ชัด
  • คนที่มีปัญหาแก้มย้อยจนเห็นได้ชัด ในบางรายเกิดเป็นผิวหย่อนคล้อยและร่องลึกจนแก้มไม่เท่ากัน
  • มีปัญหาผิวหนังเหี่ยวย่น และริ้วรอยบริเวณลำคอเป็นจำนวนมาก
  • ในบางรายที่เคยยกกระชับมาตั้งแต่แรก ๆ ด้วยวิธีอื่น และด้วยวัยที่มากขึ้นทำให้รู้ว่า การร้อยไหมหรือการทำเลเซอร์ไม่ตอบโจทย์ที่จะช่วยแก้ปัญหาใบหน้าที่หย่อนคล้อยลงได้อย่างที่เคย

ข้อดีของการทำ Face And Neck Lift

  • ช่วยเก็บกรอบหน้าให้ชัด
  • แก้ปัญหาแก้มที่ไม่เท่ากัน ผิวหนังที่เหี่ยวย่นโดยจะยกกระชับขึ้นอย่างชัดเจน
  • ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ลดริ้วรอยบริเวณใบหน้าช่วงล่างและลำคอ
  • อาการเจ็บหรือบวมน้อย ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว จะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ช่วงวันที่ 3-5 หลังจากการผ่าตัด
  • ผลลัพธ์ที่ได้สามารถอยู่ได้ถึง 5-7 ปี

การดูแลตัวเองตัวเองหลังการผ่าตัด Face And Neck Lift 

  • ควรนอนหมอนสูงในช่วง 3 วันแรก
  • สวมผ้ารัดใบหน้าตลอดในช่วง 3 วันแรกและปรับมาใส่ตลอดช่วงกลางคืน 1 เดือน

หลังผ่าตัดอาจมีอาการบวมช้ำในช่วง 1-3 วันหลังการผ่าตัด อาจมีอาการร่วมในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก หลังจากผ่าตัด 2 สัปดาห์ให้เริ่มนวดเพื่อกระตุ้นเส้นประสาทให้หายช้าและลดอาการบวม จะสามารถเห็นผลการผ่าตัดชัดเจนจนเต็มที่ในช่วง 6-12 เดือน

ใครที่กำลำลังเลใจเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม กังวลเกี่ยวกับปัญหาในการทำ หรือกำลังสนใจในเรื่องของข้อดีและการดูแลตัวเองหลังจากการผ่าตัด Face And Neck Lift ก็ไม่ต้องนั่งกุมขมับกันอีกต่อไป เพราะที่ APEX เรามีเทคโนโลยียกกระชับดึงหน้าและคอ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้คำแนะนำ และช่วยเปลี่ยนแปลงตัวคุณให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง อีกทั้งยังสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย เพราะที่ APEX เรามีห้องผ่าตัดมาตรฐานสากลระดั10K และอุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้รับมาตรฐานระดับสากล จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ตรงตามความคาดหวังที่คุณต้องการแน่นอนค่ะ

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการย้อนวัย ด้วยเทคนิค ดึงหน้า ดึงคอ

โทร : 0888-7000-39
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurger

 

The post ทำศัลยกรรม ดึงหน้า ดึงคอแล้ว ต้องพักฟื้นกี่วัน appeared first on Apex Profound Beauty.


แห้งแสบ เจ็บน้องสาว สัญญาณต้องระวังของ ช่องคลอดแห้ง

$
0
0

ช่องคลอดแห้ง
การดูแลจุดซ่อนเร้นเป็นหนึ่งที่ผู้หญิงเราไม่ควรละเลย เพราะสุขภาพของผู้หญิงนั้นเกี่ยวข้องกับจุดซ่อนเร้นโดยตรง ถ้าหากคุณสาว ๆ ดูแลเอาใจใส่ไม่ดี ก็อาจทำให้สุขภาพโดยรวมแย่ลงได้ และด้วยเหตุนี้ผู้หญิงเราจึงไม่ควรละเลยสัญญาณเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นกับจุดซ่อนเร้นของผู้หญิง อย่างเช่นอาการแห้งแสบ หรือเจ็บบริเวณจุดซ่อนเร้นที่แม้จะเป็นเรื่องกวนใจที่พอจะมองข้ามได้ แต่รู้หรือไม่ว่ามันคือสัญญาณของปัญหา ช่องคลอดแห้ง ที่ควรรีบแก้ไขค่ะ

ปัญหาแห้งแสบ เจ็บภายในช่องคลอด เป็นสัญญาณสำคัญของปัญหา ช่องคลอดแห้ง ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่วัยทอง ความเครียด การอยู่ในช่วงให้นมบุตร บางรายอาจเกิดขึ้นจากผลข้างเคียงของการใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด การรักษาโรคมะเร็ง ไม่เพียงเท่านั้นการตัดรังไข่ออกก็อาจเป็นสาเหตุของปัญหาช่องคลอดแห้งได้เช่นกัน

ทั้งนี้ภาวะช่องคลอดแห้งสามารถแก้ไขได้ โดยวิธีการรักษาก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารหล่อลื่น หรือจะเป็นการให้ฮอร์โมนทดแทน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสาเหตุมากที่สุด เนื่องจากวิธีการรักษาบางวิธีอาจมีผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ตามมาได้ อย่างการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน ดังนั้นแพทย์จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการรักษาอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง

อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณผู้หญิงที่มีภาวะช่องคลอดแห้งไม่อยากเสี่ยงกับผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษา ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ช่องคลอดกับมีชุ่มชื้นได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องรับประทานยา แถมยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อช่องคลอด และกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้ในคราวเดียว วิธีที่ว่านั้นก็คือ Vaginal Lift นั่นเองค่ะ

Vaginal Lift เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพผู้หญิง ด้วยการใช้คลื่นพลังงานเข้าไปกระตุ้นให้ภายในช่องคลอดสร้างสารหล่อลื่นมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และช่องคลอดกระชับขึ้น โดยสามารถเห็นผลความเปลี่ยนแปลงได่หลังจากทำครั้งแรก ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังไม่ต้องพักฟื้นเหมือนกับการผ่าตัดรีแพร์แบบเดิม ๆ อีกต่อไป

ไม่เพียงเท่านั้น Vaginal Lift ยังสามารถช่วยตกแต่งจุดซ่อนเร้นภายนอกให้กลับมาอ่อนเยาว์กระจ่างใสได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถย้อนวัยให้กับน้องสาวได้แบบไม่ต้องเจ็บตัวเลยล่ะค่ะ

และถ้าหากคุณกำลังสนใจอย่างแก้ปัญหาช่องคลอดแห้ง และคืนความสาวให้กับจุดซ่อนเร้นแล้วล่ะก็ ที่ APEX เรามีเทคโนโลยี Vaginal Lift ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขทุกปัญหาจุดซ่อนเร้น และเหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคน เพราะเราเชื่อว่าความมั่นใจของผู้หญิงต้องมาจากสุขภาพที่ดีทั้งภายนอกและภายในค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 062 709 6849, 063 310 8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen

The post แห้งแสบ เจ็บน้องสาว สัญญาณต้องระวังของ ช่องคลอดแห้ง appeared first on Apex Profound Beauty.

เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากอะไร ?

$
0
0

เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์เชื่อว่าคงไม่มีสาว ๆ คนไหนที่อยากให้กิจกรรมบนเตียงต้องสะดุด หรือทำให้ความสุขที่มีไม่สุดด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม แต่ก็มีผู้หญิงไม่น้อยที่ต้องประสบกับปัญหาเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์จนทำให้กิจกรรมกุ๊กกิ๊กที่ควรจะสุดแซ่บแฮปปี้ กลายเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจดจำ ทว่าก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่จะลืม ๆ กันไปได้ เพราะอันที่จริงแล้วอาการ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ มีที่มาค่ะ แถมดีไม่ดียังอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพผู้หญิงได้อีกด้วย !

อาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลัก ๆ นั้นก็มาจากการที่ภายในช่องคลอดของคุณสาว ๆ ขาดความชุ่มชื้น ไม่มีสารหล่อลื่น หรือเกิดขึ้นจากภาวะช่องคลอดแห้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ในผู้หญิงทุกวัย โดยปัญหานี้ไม่เพียงแต่ทำให้เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลให้สาว ๆ เกิดอาการแห้งแสบ และคันภายในช่องคลอด สร้างความกังวลใจให้อยู่ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

ทั้งนี้แม้ว่าภาวะช่องคลอดแห้งจะไม่ได้เป็นอันตรายกับผู้หญิงมากนัก แต่ถ้าหากปล่อยเอาไว้นาน ๆ ก็อาจทำให้ความสุขทางเพศลดลง หรือซ้ำร้ายไปกว่านั้นอาจทำให้เลือดออกจากช่องคลอด และเกิดการติดเชื้อได้ ดังนั้นคุณสาว ๆ ที่มีปัญหาแห้งแสบ คัน หรือเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ควรรีบหาทางรักษาอย่างด่วนเลยค่ะ โดยในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีให้เลือกไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนการใช้สารหล่อลื่น หรือจะถ้าไม่อยากมานั่งเสียเวลา หรือเสี่ยงกับปัญหาสุขภาพก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีใหม่ที่สามารถช่วยคุณได้ นั่นก็คือการทำ Vaginal Lift ค่ะ

Vaginal Lift เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อสุขภาพผู้หญิงอย่างแท้จริง ด้วยการใช้คลื่นพลังงานเข้าไปกระตุ้นการสร้างสารหล่อลื่นภายในช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดชุ่มชื้นมากขึ้น นอกจากนึ้คลื่นพลังงานที่ใช้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้กล้ามเนื้อภายในช่องคลอด และกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานกระชับมากขึ้น แถมยังช่วยตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกของจุดซ่อนเร้นให้กลับมาอ่อนเยาว์กระจ่างใสได้อีกครั้งเหมือนย้อนวัยให้น้องสาวได้อีกครั้งแบบไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก เรียกได้ว่าทำแล้วให้ผลลัพธ์ครบทั้งภายนอกภายใน และแก้ไขปัญหาที่หนักใจได้ในคราวเดียวเลยล่ะค่ะ

และถ้าวันนี้คุณสาว ๆ ยังไม่ทราบว่าจะทำ Vaginal Lift ที่ไหนดี ขอแนะนำที่ APEX ค่ะ เพราะที่ APEX เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยี Vaginal Lift ที่ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงทุกคน มาครบจบที่เดียว ไม่ต้องกังวลเรื่องจุดซ่อนเร้นอีกต่อเลยล่ะค่ะบอกให้ !

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 062 709 6849, 063 310 8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen

The post เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากอะไร ? appeared first on Apex Profound Beauty.

ฝึกขมิบ เคล็ดลับกระชับน้องสาวให้ฟิตด้วย Kegel Exercise

$
0
0

Kegel Exercise
เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย บริเวณอุ้งเชิงกราน หรือจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงก็ต้องการการออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อฟิตกระชับ และแข็งแรงด้วยเช่นกัน และด้วยเหตุนี้แล้วจึงมีการออกแบบการออกกำลังกายเพื่อจุดซ่อนเร้นออกมา และการออกกำลังกายนั้นก็มีชื่อว่า Kegel Exercise ค่ะ

Kegel Exercise เป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และจุดซ่อนเร้นที่สามารถทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน แถมยังสามารถทำตอนไหนก็ได้ค่ะ เพราะการออกกำลังกายแบบนี้เป็นการออกกำลังกายด้วยการฝึกขมิบกล้ามเนื้องอุ้งเชิงกราน หรือบริเวณช่องคลอด ทั้งนี้คุณสาว ๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรือว่าถ้าหากไม่ถนัด ปัจจุบันก็มีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Kegel Ball มีลักษณะคล้ายลูกบอลซิลิโคน ซึ่งออกมาแบบมาเพื่อช่วยให้สาว ๆ ฝึกขมิบได้มากขึ้นค่ะ

ทั้งนี้ในการฝึกขมิบ คุณสาว ๆ ก็สามารถทำได้ง่ายมากเลยค่ะ โดยฝึกขมิบอย่างน้อยวันละ 45 นาทีเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน และช่องคลอดได้รับการออกกำลังกาย และช่วยให้กระชับมากขึ้นค่ะ

แต่ถ้าสาว ๆ คนไหนรู้สึกว่าการทำ Kegel Exercise นั้นเป็นเรื่องยาก หรือไม่อยากมานั่งฝึกขมิบนาน ๆ ทุกวันแล้วล่ะก็ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถช่วยยกกระชับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานรวมทั้งช่องคลอดได้ โดยการใช้คลื่นพลังงาน และใช้เพียงการนั่งเท่านั้น ! เทคโนโลยีที่ว่านั้นก็คือ เก้าอี้สร้างสุข Emsella นั่นเองค่ะ

Emsella เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพผู้หญิงที่จะช่วยให้คุณลืมการออกกำลังกายด้วยการขมิบช่องคลอดไปเลย เพราะ Emsella คือเทคโนโลยีเก้าอี้มหัศจรรย์ที่สามารถช่วยยกกระชับกล้ามเนื้องอุ้งเชิงกราน และช่องคลอดได้ด้วยการใช้คลื่นพลังงานอิเล็กโทรแมกเนติก โดยในการทำแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 28 นาที ก็เทียบเท่ากับการฝึกขมิบช่องคลอดถึง 11,200 ครั้ง ! ซึ่งแน่นอนว่าลำพังเพียงการฝึกขมิบทั่วไปไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน

ไม่เพียงเท่านั้น เพราะเจ้าเก้าอี้สร้างสุข Emsella นั้น นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความฟิตกระชับให้กับกล้ามเนื้อและจุดซ่อนเร้นภายในแล้ว ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และช่วยเสริมสร้างความสุข และสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย

และที่ APEX เราเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยี Emsella เข้ามาให้บริการ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้คำปรึกษาและให้การดูแลตลอดการรักษาทำให้สาว ๆ ที่ขาดความมั่นใจเรื่องความกระชับของจุดซ่อนเร้น แต่ไม่อยากจะเจ็บตัว และไม่ต้องการฝึกขมิบบ่อย ๆ ให้เสียเวลา กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งด้วยเก้าอี้สร้างสุข Emsella จาก APEX แล้วคุณผู้หญิงจะรู้ว่าคุณก็ฟิตได้แบบไร้กังวลค่ะ !

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 062 709 6849, 063 310 8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen

The post ฝึกขมิบ เคล็ดลับกระชับน้องสาวให้ฟิตด้วย Kegel Exercise appeared first on Apex Profound Beauty.

3 เรื่องสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับช่องคลอดแห้ง 

$
0
0

ช่องคลอดแห้ง
ช่องคลอดแห้ง ปัญหาสุขภาพผู้หญิง ที่สาว ๆ ทุกวัยมักพบได้ ซึ่งเป็นปัญหาจุดซ่อนเร้นที่ทำให้เกิดอุปสรรคในการใช้ชีวิตของผู้หญิงเราค่อนข้างมาก แถมยังทำลายความมั่นใจได้อีกด้วย ทว่าแม้จะเป็นปัญหาใกล้ตัว แต่ก็มีผู้หญิงหลายคนที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องปัญหาช่องคลอดแห้ง วันนี้เราเลยขอหยิบเรื่องสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับปัญหาช่องคลอดแห้งมาฝากกันค่ะ

1. คนวัยทองเป็น ช่องคลอดแห้ง ง่ายกว่าวัยอื่น

ผู้หญิงวัยทอง หรืออยู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเกิดภาวะช่องคลอดแห้งมากกว่าผู้หญิงวัยอื่น ๆ เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงเนื่องจากรังไข่หยุดการทำงาน ส่งผลให้ร่างกายผลิตสารหล่อลื่นภายในช่องคลอดลดลงหรือไม่ผลิตอีกเลยจึงส่งผลให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้งขึ้น ดังนั้นจึงสังเกตได้ว่าผู้หญิงที่เข้าวัยหมดประจำเดือนส่วนใหญ่มักจะเจอกับปัญหานี้ค่ะ

2. แค่เครียดก็ทำให้ช่องคลอดแห้งได้

เราคงทราบกันอยู่แล้วว่าความเครียดส่งผมเสียต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิต แม้แต่สุขภาพผู้หญิงก็ส่งผลกระทบได้ไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ เนื่องจากความเครียดอย่างรุนแรงสามารถส่งผลให้ระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงทำงานผิดปกติ จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพผู้หญิงต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างภาวะช่องคลอดแห้งก็เกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน

3. การสวนล้างช่องคลอด คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ช่องคลอดแห้ง

ผู้หญิงหลายคนอาจคิดว่าการสวนล้างช่องคลอดจะช่วยทำให้จุดซ่อนเร้นสะอาดมากยิ่งขึ้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว การสวนล้างช่องคลอดอาจทำให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้งได้ เนื่องจากน้ำยาหรือสารที่ใช้ในการล้างช่องคลอดนั้นจะส่งผลให้เยื่อบุช่องคลอดแห้ง อีกทั้งยังทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วยล่ะค่ะ ฉะนั้นถ้าไม่อยากเจอกับปัญหาจุดซ่อนเร้น แค่เพียงล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าก็เพียงพอแล้วค่ะ

ได้ทราบกันแบบนี้แล้ว บรรดาคุณผู้หญิงที่อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลจุดซ่อนเร้นเท่าที่ควรก็อาจต้องกลับมาใส่ใจให้มากขึ้นนะคะ เพราะอย่าลืมว่าถ้าสุขภาพเพศของคุณสาว ๆ ดี ก็ย่อมส่งผลดีกับสุขภาพโดยรวมของผู้หญิงด้วยนะคะ ฉะนั้นถ้าอยากมีสุขภาพที่ดีก็ต้องเริ่มต้นจากการดูแลจุดซ่อนเร้นให้มีสุขภาพดีก่อนเลยค่ะ ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพผู้หญิงได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องรับประทานยา หรืออาหารเสริมแบบเดิม ๆ อีกต่อไป เทคโนโลยีที่ว่าก็คือ Vaginal Lift ค่ะ

Vaginal Lift เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพผู้หญิง ด้วยการใช้คลื่นพลังงานเข้าไปกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และช่องคลอดกระชับขึ้นในทันที อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างสารหล่อลื่นภายในช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดชุ่มชื้นมากขึ้น แก้ปัญหาช่องคลอดแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงเท่านั้น Vaginal Lift ยังสามารถช่วยตกแต่งจุดซ่อนเร้นภายนอกให้กลับมาอ่อนเยาว์ และกระจ่างใสได้อีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น ทำให้ผู้หญิงกลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้ง บอกลาความกังวลที่เคยมีไปได้เลยค่ะ

และที่ APEX เรามีเทคโนโลยี Vaginal Lift ที่ออกแบบเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพผู้หญิงได้ตรงจุดมากที่สุด พร้อมทั้งยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้การดูแลตั้งแต่เริ่มปรึกษา จนเสร็จสิ้นการรักษา เพื่อให้คุณผู้หญิงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และจะกลับมารู้สึกเหมือนเป็นสาวอีกครั้งด้วย Vaginal Lift จาก APEX ค่ะ

 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 062 709 6849, 063 310 8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen

The post 3 เรื่องสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับช่องคลอดแห้ง  appeared first on Apex Profound Beauty.

รอยสิว กลบด้วย HA Skin Booster

$
0
0

รอยสิว กลบด้วย HA Skin Booster

ปัญหา ‘สิว’ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องสิว ๆ จากการศึกษาพบว่า สิวสามารถขึ้นได้ตั้งแต่เด็กวัยแรกเกิดเลยค่ะ โดยจะพบประมาณ 20% ซึ่งในวัยเด็กนั้นจะไม่ค่อยเจอว่าเกิดหลุมสิวหรือแผลเป็นจากสิว ส่วนมากช่วงวัยที่มักกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องสิว ๆ มากที่สุดคือ ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน เพราะช่วงวัยรุ่นที่อายุตั้งแต่ 12-24 ปี พบว่าหลังจากเป็นสิว จะเกิดรอยหลุมสิวถึง 85% ส่วนในวัยกลางคนที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป พบว่าเกิดรอยหลุมถึง 40% ทำให้เรื่อง รอยสิว เป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจบนใบหน้าไม่ว่าจะกับวัยไหน ๆ ก็ตาม

สิว Acne

สิว เกิดขึ้นได้จากทั้งกรรมพันธุ์และหลายสาเหตุค่ะ ซึ่งในแต่ละช่วงวัยจะมีปัจจัยการเกิดสิวที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น

    • วัยรุ่น อายุตั้งแต่ 12-24 ปี ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดสิว คือ ฮอร์โมน เพราะวัยนี้ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) จะเพิ่มระดับขึ้นทั้งในวัยรุ่นหญิงและชาย มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย กระตุ้นการผลิตไขมันในต่อมไขมันและการผลิตไขมันส่วนเกิน จนเป็นสาเหตุให้เกิดสิว ที่เรียกว่า สิวฮอร์โมน ขึ้นได้ในช่วงวัยรุ่น
    • วัยกลางคนหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น อายุตั้งแต่ 25-40 ปี ในวัยนี้อาจมีสิวที่เกิดขึ้นจากฮอร์โมนได้บ้างเหมือนกัน แต่ส่วนมากแล้วคนในวัยผู้ใหญ่จะเป็นสิวจากการใช้ชีวิตเสียส่วนใหญ่ ทั้งจากการทานอาหารเสริม, การทานยารักษาโรคบางชนิด, การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว, ล้างหน้าไม่สะอาดหลังจากการแต่งหน้า หรือการที่ไม่ค่อยล้างอุปกรณ์แต่งหน้าแล้วเอามาใช้ซ้ำ ๆ , มลภาวะต่าง ๆ ในแต่ละวัน, ความเครียด เป็นต้น
    • วัยผู้ใหญ่ตอนปลาย อายุตั้งแต่ 41 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะกับเพศหญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ในช่วงวัยนี้จะเริ่มเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนอีกครั้ง แต่เป็นการผลิตฮอร์โมนได้น้อยลงสลับกันกับช่วงวัยรุ่น ปัญหาที่จะเกิดในวัยนี้คือ ผิวเริ่มแห้งเนื่องจากกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง ผิวจะบางลง ขาดความยืดหยุ่น ทำให้เกิดอาการแพ้ง่ายและไวต่อการเป็นสิว

นอกจากปัจจัยข้างต้นตามช่วงวัยที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปัจจัยทางอ้อมบางอย่างที่ไม่ได้ทำให้เกิดสิวโดยตรง แต่เป็นสิ่งที่คนเรามักเผลอทำไปแบบไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวจนทิ้ง รอยสิว เป็นร่องรอยไว้ได้ อย่างเช่น

    • การถูหรือสัมผัสเสียดสีบนผิวหนังเป็นประจำ ทั้งจากการใส่เสื้อผ้ารัด ๆ เป็นประจำ (ชุดชั้นในของผู้หญิง, ชุดว่ายน้ำ, ชุดกีฬาต่าง ๆ) การใช้หมวกกันน็อคก็มีส่วน การบีบสิวแบบผิดวิธี การขัดหน้าหรือนวดหน้า จะยิ่งเป็นการกระตุ้นอาการอักเสบของสิวได้
    • แสงแดด ไม่ได้ทำให้เกิดสิวโดยตรง แต่หากเป็นสิวอยู่แล้ว แต่ไปตากแดดเป็นเวลานาน ๆ รังสียูวีในแสงแดดจะทำให้สิวแย่ลงได้ และในยารักษาสิวบางชนิดทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ทำให้ผิวหนังมีการเปิดรับแสงแดดในปริมาณที่มากเกินไปอีกด้วย
    • การรับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงเป็นประจำ เพราะหากน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ระดับของอินซูลินก็จะมากขึ้นตาม ซึ่งอินซูลินจะเป็นตัวไปกระตุ้นฮอร์โมนเอนโดรเจน และจะส่งผลไปถึงการกระตุ้นการผลิตไขมันส่วนเกิน จนทำให้เกิดสิวตามมาได้เช่นกัน

หลังจากเป็นสิว สิ่งที่มักตามมาคือการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว อาจเป็นได้ทั้งรอยจุด ๆ สีดำหรือแดง ไปจนถึงการเป็นรอยแผลที่มีลักษณะยุบตัวแบบที่เรียกกันว่า ‘รอยหลุมสิว’ จะหลุมตื้นหรือลึก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสิวรุนแรงแค่ไหนนั้นเองค่ะ ซึ่งหากเป็นเพียงรอยจุดดำหรือแดง ทายาแต้มรอยไม่กี่วันอาจช่วยให้หายได้ แต่การเป็น รอยสิว แบบแผลยุบตัว แบบหลุมสิว การแต้มยาอาจไม่ได้ทำให้รอยนั้นหายไปได้ค่ะ

รอยสิว acne scar

รอยสิว หลุมสิว เกิดจากอะไร

หลุมสิว เกิดจากการที่เราปล่อยให้สิว กลายเป็นสิวอักเสบค่ะ จะสิวเม็ดเล็กหรือใหญ่ ถ้าปล่อยไว้นานเกินไป บริเวณที่เกิดสิวจะยิ่งอักเสบ และเมื่อสิวเกิดการอักเสบ ก็จะเกิดเป็นหนอง ลุกลามกินลึกลงไปถึงเนื้อในจนกลายเป็นโพรง และยิ่งมีการไปแกะเกา บีบเค้น แบบผิดวิธีร่วมด้วยแล้ว จากสิวอุดตันธรรมดา ๆ อาจกลายเป็นสิวอักเสบได้ แถมอาการอักเสบของสิวก็จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นได้อีก พอสิวหายไป บริเวณใต้ผิวที่กลายเป็นโพรง ไม่สามารถฟื้นฟูเนื้อเยื่อขึ้นมาทดแทนได้ทัน จึงทิ้งรอยยุบตัวบนผิวไว้ กลายเป็น ‘รอยสิว หลุมสิว’ แบบที่เห็นกันนั่นเองค่ะ

รอยสิว หลุมสิว มีผลกระทบอะไรกับชีวิตบ้าง

ที่เห็นกันชัด ๆ เลยนะคะ คือผิวหน้าที่ไม่เรียบเนียน เป็นหลุมเป็นบ่อ ต่อให้กลบร่องรอยด้วยรองพื้น หรือคอนซีลเลอร์ แล้วตามด้วยการทาแป้งทับไปอีกชั้นก็อาจไม่ได้ช่วยมากนัก หรือที่แย่ไปกว่านั้น การที่ใช้เครื่องสำอางปกปิดทับถมลงไป จะยิ่งเกิดการอุดตันที่หลุมสิวเดิมอีกครั้ง กลายเป็นสิวขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าในที่เดิมก็ได้นะคะ

การรักษา รอยสิว หลุมสิว

หากไม่อยากให้เกิด รอยสิว หลุมสิว วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้สิวเกิดการอักเสบค่ะ มีทั้งการฉีดสิวให้ยุบ หรือแต้มยารักษา แต่ถ้าเริ่มรักษาสิวช้าเกินไปแล้ว และหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดร่องรอยทิ้งไว้ไม่ได้จริง ๆ ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะในปัจจุบันมีการรักษารอยสิว หลุมสิว รอยแผลเป็นต่าง ๆ อยู่หลายวิธีเลยค่ะ แบ่งเป็น 3 วิธีใหญ่ ๆ คือ

    1. การทายารักษา วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยสิวหรือหลุมสิวตื้น ๆ การแต้มยาจะช่วยให้รอยจางลงหรือหายดีได้ แต่ถ้าผู้ที่มีรอยหลุมสิวลึกลงไป การทายาอาจจะช่วยได้แค่ให้หลุมตื้นขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีหลุมสิวลึกควรใช้วิธีรักษาอื่นควบคู่กันไปกับการทายาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
    2. การรับประทานยา วิธีนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ ไม่ควรซื้อยารักษาสิวมาทานเอง เพราะถ้าทานต่อเนื่องไปบ่อย ๆ เข้า โดยไม่อยู่ในการควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญล่ะก็ ผลที่ตามมาคือ ตับและไตทำงานหนัก ส่งผลถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ขึ้นมาคงไม่คุ้มค่ะ
    3. การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ วิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวตื้นไปจนถึงหลุมสิวลึกมาก ๆ เลยค่ะ เครื่องมือที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ก็คือ เลเซอร์ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายพลังงานและแตกต่างกันไปตามแต่ละคลินิค โดยรวมของการทำเลเซอร์นั้นจะเน้นไปที่การกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อให้สร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาซ่อมแซม ฟื้นฟูบริเวณผิวที่เป็นหลุม ให้กลับมาตื้นขึ้นอีกครั้ง
      เมื่อก่อนจะมีอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมเหมือนกันนะคะ นั่นก็คือการรักษาแบบ Skin Needing เป็นรักษาโดยการใช้เข็มเล็ก ๆ จิ้มผ่านลงไปบนผิวหนัง เพื่อให้ผิวเกิดการสร้างตัวและฟื้นฟูได้เร็วมากขึ้น เครื่องมือที่นิยมคือ เดอร์มาโรลเลอร์ (Dermal Roller) ค่ะ มีลักษณะเป็นลูกกลิ้งเข็ม โดยจะกลิ้งลงไปบนผิวเพื่อรักษา

วิธีการรักษาในข้างต้นที่กล่าวถึง สามารถช่วยให้รอยสิว หลุมสิว ดูตื้นขึ้นและจางลงได้ก็จริง แต่ไม่ได้ฟื้นฟูให้ผิวเรียบเนียนแบบเต็ม 100% เหมือนเดิม ที่เหลือจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคุณด้วย 

แต่เทคนิคทางการแพทย์เสริมความงามไม่เคยใจร้ายกับคนที่อยากดูแลตัวเองนะคะ เพราะมีนวัตกรรมที่สามารถช่วยให้รอยหลุมสิวตื้น ๆ ที่ยังหลงเหลือนั้น เติมเต็มขึ้นมาได้ แถมยังช่วยให้ผิวพรรณเรียบเนียน อิ่มฟู ดูชุ่มชื้น แบบสุขภาพดี เป็นธรรมชาติอีกด้วยนะคะ ในบทความนี้เราเลยอยากแนะนำให้คุณรู้จักกับ HA Skin Booster (Volite) ค่ะ

HA Skin Booster

HA Skin Booster (Volite) คืออะไร

HA Skin Booster นั้น เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งที่รู้จักกันในท้องตลาดคือ Juvéderm Volite HA Skin Booster ถูกคิดค้นขึ้นเป็นพิเศษ โดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับผลิตภัณฑ์ Botox นั่นเองค่ะ ผลิตด้วยเทคโนโลยี Cross Linked-HA ชนิดใหม่ล่าสุด ที่ถูกเรียกว่า VYCROSS Technology ซึ่งประกอบด้วยห่วงโซ่ไฮยาลูโรนิกชนิดสั้นและชนิดยาวเชื่อมโยงข้ามกัน มีลักษณะเจลใสเนื้อนิ่ม เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวหนังจะกระจายตัวแทรกเข้าผิวได้เร็ว และสามารถคงตัวอยู่ใต้ชั้นผิวได้นาน โดยไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ เหมือนตัวอื่นที่เคยมีมา จนได้การรับรองจาก FDA (องค์การอาหารและยา) ของทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาและไทย ในเรื่องของการแสดงผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 9 เดือน และสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย

Juvéderm Volite HA Skin Booster

กลบรอยสิวด้วย HA Skin Booster ได้อย่างไร

การทำงานของ HA Skin Booster คือจะเข้าไปกระตุ้นคอลลาเจน อิลาสตินใต้ผิวพร้อมทั้งเพิ่มท่อส่งน้ำใต้ผิวทำให้ผิวดูฉ่ำวาว ริ้วรอยดูจางลง ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น ทำให้ผิวดูสุขภาพดี สามารถฉีดได้ในบริเวณที่มีปัญหาแห้งกร้าน ขาดน้ำ บริเวณที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น ใบหน้า ลำคอ เนินอก รวมถึงหลังมือ และสามารถฉีดเพื่อรักษาแผลเป็นของหลุมสิวได้

ซึ่งการฉีด HA Skin Booster เป็นแค่การใช้ปลายเข็มเล็ก ๆ สะกิดไปที่ผิวหนัง เพื่อส่งตัว Skin Booster เข้าไปใต้ผิวอย่างตรงจุด และในตัวผลิตภัณฑ์ยังมีส่วนผสมของยาชา Lidocaine อยู่ด้วย จึงทำให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้นในระหว่างที่ทำการฉีด

หลังจากฉีดทันทีจะเป็นว่าผิวดูเรียบเนียนขึ้น รอยสิวและหลุดสิวดูจางลง ไม่ต้องพักฟื้นและใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากฉีดไป 1 อาทิตย์จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของคุณภาพผิว ผิวจะมีความชุ่มชื้น นิ่ม ฟู  และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 3-4 สัปดาห์  ผิวจะดูเต็ม เรียบเนียน รูขุมขน รอยสิว และหลุมสิวดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด ตามด้วยผิวที่ดูเต่งตึง กระจ่างใส แลดูสุขภาพดี

HA Skin Booster ถือเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่สามารถช่วยกลบรอยแผลเป็นจากสิวให้คุณได้แบบง่าย ๆ เรียกว่าฉีดครั้งเดียวคุ้มค่ากับการที่รอยหลุมสิวหายไป แถมด้วยผิวหน้าเด้ง นุ่มฟู ชุ่มฉ่ำ ดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติอีกด้วยนะคะ

ถ้าใครมีปัญหาหลุมสิวกวนใจ แล้วอยากลองใช้วิธีการฉีด HA Skin Booster สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) หรืออยากจะจองคิวเพื่อเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ

The post รอยสิว กลบด้วย HA Skin Booster appeared first on Apex Profound Beauty.

บอกลาหน้าเดิม! “ต้น จักรกฤษณ์” ขึ้นเขียงเสริมหล่อ หน้าเด็ก

$
0
0

หน้าเด็ก
ใครหลายคนเมื่ออายุเข้าสู่เลขสี่หรือเลขห้าแล้วนั้น ใบหน้าที่เคยยกกระชับเต่งตึงก็เริ่มหย่อนคล้อยลง ดูเหี่ยวกว่าปกติ และยิ่งเมื่ออยู่ในวงการบันเทิงที่มีการพัฒนามาโดยตลอดจากระบบอนาล็อกเป็นระบบ HD ความคมชัดที่มีก็เรียกได้ว่าเป็นอุปสรรคในการทำงานอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ส่งผลให้การดูแลตัวเองให้ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงนั้นเป็นเรื่องสำคัญของคนในวงการก็ว่าได้ นักแสดงผู้มากความสามารถอย่างคุณ ต้น จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ ที่มีผลงานมากมายให้เราได้ติดตามก็เช่นกัน ช่วงนี้ความหล่อของเขาเรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นผิดหูผิดตามแถมยัง หน้าเด็ก กว่าเดิมเยอะมาก เคล็ดลับความหล่อของคุณต้น จักรกฤษณ์คืออะไร เรามีข้อมูลมาฝากกันค่ะ

ปัญหาที่ก่อให้เกิดความกังวลใจ

ต้องเล่าก่อนว่าคุณต้นเป็นนักแสดงที่มากความสามารถและเข้าถึงบทบาทได้เป็นอย่างดีโดยรวมไปถึงการแสดงสีหน้าที่เข้าถึงบทบาททั้งบทพระเอก ตัวร้ายก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม แต่เมื่ออายุที่เริ่มมากขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วเจอบ่อยมากก็คือการที่ถูกทักว่าถ้าหากคิดถึงบทตัวร้าย หรือคนที่อารมณ์ร้าย ทำหน้าดุ ต้องคิดถึง “ต้น จักรกฤษณ์” หรือทำไมหน้าดูโกรธ ๆ หน้าดูเหนื่อย ๆ นะ ทั้งที่ความจริงแล้วเราทำหน้าปกติ กลายเป็นว่าทัศนคติที่คนอื่นมีต่อเรากลายเป็นว่าเราเป็นคนดุ คนหน้าโกรธ ยิ่งบทละครที่แสดงสีหน้าเยอะอย่างบทตัวร้ายยิ่งทำให้คนยิ่งคิด แถมเมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาใบหน้าดูเหนื่อยดูล้าก็ตามมา ใบหน้าไม่สดใส ทำให้รู้สึกเป็นปัญหาต่อการทำงานที่ทำให้เกิดความกังวลใจมากที่สุด

การตัดสินใจครั้งใหญ่

คุณต้น จักรกฤษณ์ ตัดสินใจเข้ารับคำปรึกษากับนายแพทย์สมบูรณ์ ไหวพริบที่ Apex Medical Center เพื่อแก้ปัญหาที่กำลังกวนใจให้ตรงจุด ซึ่งทางนายแพทย์สมบูรณ์ ไหวพริบได้ให้คำตอบในเรื่องนี้ว่า ปัญหาที่ต้องแก้ไขจะเริ่มตั้งแต่บริเวณใบหน้าช่วงบน ใบหน้าช่วงล่าง ลำคอ ถุงใต้ตา หนังตาที่ตก คิ้วตก และการปรับรูปหน้าให้ดูสดใส ซึ่งคุณต้นยอมรับว่าฟังครั้งแรกนั้นตนเองคิดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นอย่างน้อย 3 เดือนแน่ ๆ แต่เอาเข้าจริง เพียงแค่ 10 วัน คุณต้นก็เริ่มออกกองแล้ว อาการบวมหรือช้ำน้อยมาก เรียกได้ว่าประทับใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเรามีรายละเอียดในการศัลยกรรมใบหน้าของคุณต้นมาฝากกันด้วยค่ะ

  • เทคโนโลยีส่องกล้องปักหมุก แก้หนังตาตก ยกคิ้ว
  • เทคนิคผ่าตัดเก็บถุงใต้ตา พร้อมจัดเรียงไขมันใต้ตาให้ดูสดใส ลดริ้วรอยบริเวณใต้ตา
  • เทคนิคดึงหน้ายกกระชับใบหน้าและลำคอ ทำให้ใบหน้าดูกระชับ เนียนและอ่อนวัย
  • เติมร่องแก้มให้อ่อนเยาว์ เป็นธรรมชาติ
  • ใช้เทคนิคพิเศษเพื่อเก็บซ่อนรอยแผลคุณต้น

ความประทับใจที่ได้รับ

คุณต้นบอกเลยว่า เขาส่องกระจกดูตัวเองทุกวัน เพื่อพยายามสังเกตความเปลี่ยนแปลงว่าเป็นอย่างไรบ้าง เอาจริง ๆ ก็แอบมองยากเพราะส่องกระจกทุกวัน ต้องอาศัยเทียบจากรูปเก่าและเสียงรอบข้างเอา หลาย ๆ คนบอกเลยว่าหน้าเด็กมาก คนที่ไม่ค่อยได้เจอก็บอกเลยว่าหน้าเด็กมาก แถมท้ายว่าผู้กำกับบอกว่า อย่าเด็กไปกว่านี้เลย เดี๋ยวหาบทลงยากนะ ดีใจมากครับ ขอบคุณ Apex ที่ดูแลเป็นอย่างดี

เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยใช่ไหมคะ และหากใครที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยก็ไม่ต้องนั่งกุมขมับกันอีกต่อไป เพราะที่ APEX เรามีเทคโนโลยีส่องกล้องปักหมุด และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้คำแนะนำ และช่วยเปลี่ยนแปลงตัวคุณให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง อีกทั้งยังสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย เพราะที่ APEX เรามีห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ที่ทันสมัย และได้รับมาตรฐานระดับสากล JCI จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ตรงตามความคาดหวังที่คุณต้องการแน่นอนค่ะ

ต้น

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการใบ หน้าเด็ก ย้อนวัย ด้วยเทคนิคดึงหน้า ส่องกล้องปักหมุด

โทร : 0888-7000-39
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurger

 

The post บอกลาหน้าเดิม! “ต้น จักรกฤษณ์” ขึ้นเขียงเสริมหล่อ หน้าเด็ก appeared first on Apex Profound Beauty.

เคล็ดไม่ลับ ปลุกความฟิตให้น้องชายปึ๋งปั๋ง !

$
0
0

นกเขาไม่ขันเรื่องของความฟิตปึ๋งปั๋ง เป็นสิ่งที่หนุ่ม ๆ ล้วนให้ความสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกมั่นใจในความเป็นชายชาตรีแล้ว ก็ยังช่วยให้กิจกรรมรักระหว่างคุณผู้ชายกับคนรักดีตามไปด้วย แต่เมื่ออายุมากขึ้นความฟิต ความอึดที่เคยมีก็อาจจะร่วงโรยไปตามวัย หรือไม่ก็มีปัจจัยต่าง ๆ อย่างเช่นเรื่องปัญหาสุขภาพร่างกายและจิตใจมาทำให้ความฟิตปึ๋งปั๋งลดลง หรือ นกเขาไม่ขัน แล้วจะมีวิธีใดบ้างที่สามารถช่วยเสริมความฟิตปั๋งให้กับคุณผู้ชายได้

ปัจจุบันมีวิธีมากมายที่สามารถช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศให้กับผู้ชายได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร หรือจะเป็นการใช้อาหารเสริมที่มีวางขายตามท้องตลาด โดยเฉพาะวิธีการใช้อาหารเสริมนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยเสมอไป เนื่องจากเราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าในอาหารเสริมจะปลอดภัยหรือไม่ ดังนั้นในการเลือกใช้วิธีการเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศสำหรับผู้ชายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ

แต่ถ้าคุณหนุ่ม ๆ ไม่อยากจะเสี่ยงกับอาหารเสริม และไม่มีเวลามากพอที่จะคัดสรรอาหารที่มีประโยชน์ หรือรู้สึกว่าการออกกำลังกายนั้นให้ผลที่ช้าเกินไปแล้วล่ะก็ ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อสุขภาพผู้ชายอย่างแท้จริง ที่สามารถช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ และแก้ไขปัญหาที่ผู้ชายรู้สึกกังวลได้ นั่นก็คือเทคโนโลยี Emsella หรือเก้าอี้สร้างสุข ค่ะ

เก้าอี้สร้างสุข Emsella คือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อสุขภาพผู้ชายที่นำเอาคลื่นพลังงานอิเล็กโทรแม็กเนติกมาใช้ผ่านเก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาพิเศษ คุณหนุ่ม ๆ ใช้เวลาเพียง 28 นาทีนั่งบนเก้าอี้สร้างสุขนี้ ก็สามารถช่วยเสริมความฟิตปึ๋งปั๋ง และช่วยเสริมสร้างความรู้สึกทางเพศให้เพิ่มขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริม หรืออุปกรณ์ใด ๆ ช่วยอีกต่อไป เพราะในการนั่งเก้าอี้สร้างสุข Emsella เพียง 1 ครั้งก็เทียบเท่ากับออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน อย่าง Kegel Exercise ถึง 11,200 ครั้งเลยทีเดียว ! แถมถ้าทำซ้ำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 6 เดือน คุณผู้ชายจะรู้สึกได้ถึงความ ฟิต ความอึด และความสุขทางเพศที่เพิ่มขึ้นได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเล็ด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ที่สร้างความรำคาญใจให้กับหนุ่ม ๆ ได้อีกค่ะ เรียกว่าแค่นั่งสุขภาพผู้ชายก็ดีขึ้นได้

และที่ APEX เราเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่นำเอาเก้าอี้สร้างสุข Emsella เข้ามาให้บริการ อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำ และดูแลตลอดการใช้บริการ เพื่อให้คุณหนุ่ม ๆ มั่นใจได้ว่าเก้าอี้สร้างสุขนี้จะช่วยให้กลับมารู้สึกฟิตปึ๋งปั๋งมากขึ้น ชนิดที่ว่าอายุก็ไม่ใช่ข้อจำกัดอีกต่อไปแน่นอน ด้วย Emsella เก้าอี้สร้างสุข จาก APEX ค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 062 709 6849, 063 310 8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen

 

The post เคล็ดไม่ลับ ปลุกความฟิตให้น้องชายปึ๋งปั๋ง ! appeared first on Apex Profound Beauty.


ผู้ชาย ฉีดโบท็อกซ์ ใครว่าไม่แมน

$
0
0

ผู้ชาย ฉีดโบท็อกซ์ ใครว่าไม่แมน

หากย้อนกลับไปเกือบ 20 กว่าปี ที่ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์เพิ่งเริ่มเข้ามาได้รับความนิยมในวงการเสริมความงามในเมืองไทย และไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์หรือการทำหัตถการความงามอื่น ๆ มักถูกมองว่าเป็นแค่เรื่องของผู้หญิงเท่านั้น การเดินเข้าคลินิคเสริมความงามสำหรับผู้ชายในสมัยนั้น อาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย เพราะยังติดภาพว่าการที่ผู้ชายไปเสริมความงามมันดูไม่ค่อยแมนเท่าไหร่นัก

แต่เรื่องการหันมาดูแลตัวเอง หรืออยากจะดูดีขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเพศเลยค่ะ เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนเริ่มเปิดรับ ยอมรับ และเข้าใจมากขึ้น การเดินเข้าคลินิคเสริมความงามจึงเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ ยิ่งการทำทรีตเม้นต์อย่างฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งใช้เวลาในการรักษาไม่นาน แปปเดียวก็ดูดีขึ้นได้อย่างใจแล้ว

การ ฉีดโบท็อกซ์ ถือเป็นเทรนด์เสริมความงามที่ได้รับความนิยมที่สุดวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะเป็นวิธีที่ง่าย สะดวกและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น จะเห็นได้จากการจัดอันดับความฮอตฮิตของเทรนด์เสริมความงามแต่ละปี การฉีดโบท็อกซ์จะต้องติดอยู่ในอันดับต้น ๆ เสมอ ซึ่งโบท็อกซ์ (Botox) ที่เราเรียกกันจนติดปากทุกวันนี้ แท้จริงแล้วมันคือ สารลดริ้วรอย ที่มีชื่อเป็นทางการว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน ไทป์ เอ (Botulinum Toxin Type A) และโบท็อกซ์เป็นหนึ่งในชื่อยี่ห้อของมันนั่นเองค่ะ

ผู้ชาย ก็ ฉีดโบท็อกซ์ Botox ได้

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่สกัดจากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย ปรับรูปใบหน้า ลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ เช่น น่องและกราม รวมถึงการฉีดเพื่อลดเหงื่อ ในผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะ ตามบริเวณรักแร้ ข้อพับแขนขา และฝ่ามือ อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการผิดปกติบางอย่างของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ด้วยนะคะ เช่น ตาเหล่ ตาเข ตากระตุก หรือการอักเสบของกล้ามเนื้อข้อต่อขากรรไกร เป็นต้น

กระแสการหันมาดูแลตัวเองของคนในทุกเพศ ทุกวัยเริ่มมีมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ โดยวิธีการดูแลตัวเองก็มีอยู่ด้วยกันหลายอย่างค่ะ ตั้งแต่การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม มีการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ใช้ครีม/เซรั่ม/ออยล์บำรุงผิวเป็นประจำ แล้วแถมด้วยการเสริมบางอย่างที่ขาดเข้าไป เพื่อช่วยให้การดูแลตัวเองได้ผลมากขึ้นกว่าเดิม เช่น การทานวิตามิน อาหารเสริมต่าง ๆ รวมถึงการเข้าคลินิคเสริมความงามด้วยค่ะ

เรื่องการเดินเข้าสถานเสริมความงามนั้น ผู้หญิงอาจจะก้าวนำผู้ชายไปมากหน่อยนะคะ แต่ในการสำรวจตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา พบว่ามีจำนวน ผู้ชาย ที่หันมา ฉีดโบท็อกซ์ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเพิ่มมากขึ้นถึง 37% โดยประเทศที่พบว่ามีผู้ชายฉีดโบท็อกซ์มากที่สุดก็คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีไม่ต่ำกว่าครึ่งล้านคน และมีอัตราเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปีด้วยค่ะ

ผู้ชาย ฉีดโบท็อกซ์ ผู้ชาย ฉีดโบท็อกซ์ ผู้ชาย ฉีดโบท็อกซ์ ผู้ชาย ฉีดโบท็อกซ์

ทำไมผู้ชายถึงหันมาฮิตการฉีดโบท็อกซ์

เทรนด์ฮิตการ ฉีดโบท็อกซ์ ใน ผู้ชาย เกิดจากการอยากดูแลตัวเองส่วนหนึ่งค่ะ และผลพลอยได้ที่ตามมาหลังจากนั้น คือการช่วยเพิ่มโอกาสที่ดีต่าง ๆ ให้คุณนั้นเอง เมื่อรู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้น ความมั่นใจที่จะทำในเรื่องต่าง ๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้นตาม

คุณหนุ่ม ๆ หลายคนอาจมีการแข่งขันในที่ทำงานสูง และยิ่งเป็นการแข่งขันกับเด็กรุ่นใหม่ด้วยแล้ว คุณหนุ่ม ๆ ก็ยิ่งมองหาตัวช่วยที่จะเพิ่มความมั่นใจเหล่านั้นให้ตัวเอง แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่โอกาสในหน้าที่การงานเท่านั้นนะคะ แต่รวมถึงโอกาสที่ดีในชีวิตส่วนตัวของคุณด้วยเช่นกัน

เราลองมาดูกันค่ะว่า คุณหนุ่ม ๆ นิยมฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งไหนกันบ้าง
    • บริเวณหางตา เพื่อป้องกันการเกิดรอยตีนกา
    • ระหว่างหัวคิ้ว ริ้วรอยนี้มักเกิดจากการที่คุณหนุ่ม ๆ ชอบขมวดคิ้ว
    • ริ้วรอยย่นบนหน้าผาก จะเกิดจากการที่ชอบเลิกคิ้วสูง ๆ
    • รอบปาก เพื่อกำจัดร่องรอยลึกจากการยิ้ม หรือหัวเราะ

คุณหมอเอก นพ. เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร โบท็อกซ์ ผู้ชาย

แต่การ ฉีดโบท็อกซ์ ในผู้หญิงกับ ผู้ชาย มีความคาดหวังที่แตกต่างกันอยู่นะคะ หากเป็นคุณสาว ๆ ความคาดหวังหลังจากฉีดโบท็อกซ์ นอกจากริ้วรอยต่าง ๆ หายไปแล้ว คงเป็นการที่มีใบหน้าเล็กลง กรอบหน้าชัดขึ้น หน้าเรียว V Shape แต่กับคุณหนุ่ม ๆ ความต้องการจะแตกต่างกันค่ะ คุณผู้ชายฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์หายไป แต่ไม่ได้ต้องการหน้าเรียวเล็ก หน้าวีแบบผู้หญิงค่ะ คุณหนุ่ม ๆ ยังคงต้องการใบหน้าหลังจากฉีดให้ขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ อาจหลงเหลือริ้วรอยจาง ๆ ตามอายุเอาไว้บ้าง และต้องคงความแมน ๆ ไว้อย่างเดิม

คุณหมอเอก นพ. เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร เอเพ็กซ์
คุณหมอเอก – นายแพทย์เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร

คุณหมอเอก – นายแพทย์เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร เล่าให้ฟังถึงกฎของการฉีดโบท็อกซ์ในกลุ่มลูกค้าผู้ชายว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘Keep masculine look’ คือฉีดให้หน้ายังดูแมนอยู่ การฉีดโบท็อกซ์ในกลุ่มลูกค้าผู้หญิงและกลุ่มลูกค้าผู้ชายนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง จริงอยู่ว่าเราใช้ยา Botulinum Toxin เหมือนกันแต่เทคนิคการฉีดนั้นไม่เหมือนกันเลย สำหรับผู้หญิงเมื่อฉีดโบท็อกซ์ไปแล้วก็อยากให้หน้าเล็ก หน้าวี ดูเรียว คิ้วดูยก แต่กลุ่มผู้ชายเราไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์แบบนั้นได้เพราะจะทำให้ขาดความแมนทันที ห้ามคิ้วยก หน้าผากห้ามแข็งจนแสดงอารมณ์ไม่ได้ คางยังต้องเป็นคางตัดเหมือนเดิม ผู้ชายยังคงต้องดูเป็นผู้ชายเพียงแค่หลังจากฉีดโบท็อกซ์ไปจะทำให้ดูหนุ่มขึ้น อ่อนเยาว์ลง

ต่อไปนี้ ถ้าเห็นผู้ชายอายุ 50+ แต่ยังดูดี หน้าตาสดใส ไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ทำให้ดูมีพลังเหมือนหนุ่ม ๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะใคร ๆ ก็ฉีดโบท็อกซ์กันทั้งนั้นแล้วค่ะ สมัยนี้

ผู้ชายฉีดโบท็อกซ์ ก่อน-หลัง หน้าข้าง ผู้ชายฉีดโบท็อกซ์ ก่อน-หลัง หน้าตรง

คุณหนุ่ม ๆ คนไหนที่อยากเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง หรือยังกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะฉีดโบท็อกซ์สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดคิวปรึกษาแพทย์ได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ

The post ผู้ชาย ฉีดโบท็อกซ์ ใครว่าไม่แมน appeared first on Apex Profound Beauty.

3 วิธีบอกลา กลิ่นเต่า ช่วงหน้าฝน

$
0
0

กลิ่นเต่า
ขึ้นชื่อว่า กลิ่นเต่า แล้ว ก็คงไม่มีใครพิสมัยนัก เพราะนอกจากจะทำให้ใครก็ไม่อยากเข้าใกล้แล้ว ก็ยังทำลายความมั่นใจได้อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว แถมถ้าเจอฝนตกไปอีกก็ทำให้อากาศชื้น ซึ่งอากาศที่อบอ้าวและชื้นนั้นเป็นตัวเร่งให้เกิดกลิ่นเหม็นตุ ๆ บริเวณใต้วงแขน จนทำให้เกิดเป็นกลิ่นเต่าที่ไม่น่าพึงประสงค์ได้ง่ายกว่าปกติ สำหรับใครที่ไม่อยากจะมีกลิ่นเต่าให้กังวลใจแล้วล่ะก็ เรามีวิธีดี ๆ ที่ช่วยในการป้องกันปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์มาฝากค่ะ

1. รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

การรักษาความสะอาดใต้วงแขน ถือเป็นสิ่งที่ควรรทำเป็นอันดับแรก เพราะส่วนใหญ่แล้วกลิ่นเต่ามักเกิดจากการไม่รักษาความสะอาดจนทำให้เกิดการหมักหมมและกลายเป็นกลิ่นเหม็นตุ ๆ ดังนั้นทุกครั้งที่อาบน้ำควรยกแขนขึ้นทำความสะอาดบริเวณรักแร้ เพื่อให้เหงื่อหรือสิ่งสกปรกที่หมักหมมอยู่ออกไป นอกจากนี้ระหว่างวันหากรู้สึกเหนอะหนะ ไม่สบายตัวก็อาจใช้กระดาษเปียกทำความสะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง ก็จะช่วยให้รักแร้ของคุณสะอาดไปได้ตลอดทั้งวันค่ะ

2. หมั่นดูแลขนรักแร้อย่างสม่ำเสมอ

การปล่อยให้ขนรักแร้ยาวโดยไม่ได้ดูแลรักษาให้ดี ๆ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ เพราะขนรักแร้ที่ยาวจะทำให้รักษาความสะอาดได้ยาก และกลายแหล่งสะสมของเชื้อโรค ดังนั้นทางที่ดีควรหมั่นตัด และเล็มขนรักแร้ให้สั้นอยู่เสมอ หรือไม่ก็กำจัดขนออกไปเลยเพื่อที่จะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่าง ๆ จนทำให้เกิดกลิ่นรักแร้ตามมาค่ะ

3. เลเซอร์รักแร้

สำหรับใครที่ขี้เกียจกำจัดขนรักแร้บ่อย ๆ และไม่อยากมีกลิ่นเหม็นตุ ๆ ที่ใต้วงแขน การเลเซอร์ขนรักแร้ช่วยคุณได้ เพราะวงแขนที่เรียบเนียนไร้เส้นขนจะช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย และไม่มีแหล่งสะสมของเชื้อโรค และสิ่งสกปรกที่ทำให้เกิดกลิ่น แถมเลเซอร์ขนยังช่วยให้บริเวณใต้วงแขนเรียบเนียนมากขึ้น แก้ปัญหาขนคุด และผิวหนังไก่ที่ รวมทั้งกลิ่นตุ ๆ ที่เคยกวนใจไปได้เลยค่ะ

เรียกว่าปัญหากลิ่นเต่านี่แก้ไขง่ายกว่าที่คิดเลยนะคะ ฉะนั้นใครที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นใต้วงแขนก็หันกลับมาดูแลใต้วงแขนกันให้มากขึ้นดีกว่า แต่ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาจัดการกับเส้นขนใต้วงแขน และอยากมีผิวที่เรียบเนียนล่ะก็ ขอแนะนำการทำเลเซอร์ขนนี่ล่ะค่ะ เพราะกำจัดขนได้แน่นอนโดยไม่ต้องมาเสียเวลานั่งเล็ม นั่งถอนหรือโกนอีกต่อไป

และถ้าหากคุณกำลังมองหาสถาบันเสริมความงามที่ให้บริการเลเซอร์กำจัดขนได้อย่างเป็นมืออาชีพก็ต้องเป็นที่ APEX ด้วยประสบการณ์ด้านความงามมากว่า 25 ปี จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่า จะได้รับบริการเลเซอร์กำจัดขนอย่างเป็นมืออาชีพ ไม่ต้องนั่งกังวลเรื่องผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกต่อไป อย่าให้หน้าฝนทำคุณมีกลิ่นเหม็นตุ ๆ ให้ APEX ดูแลคุณดีกว่าค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter

The post 3 วิธีบอกลา กลิ่นเต่า ช่วงหน้าฝน appeared first on Apex Profound Beauty.

ต้นแขนใหญ่ ปั้นให้สวยด้วย CoolSculpting

$
0
0

ต้นแขนใหญ่
ต้นแขนใหญ่ เป็นอุปสรรคต่อแฟชั่นของผู้หญิงไม่น้อย เพราะเมื่อแขนใหญ่แล้ว จะสวมใส่เสื้อผ้าโชว์แขน หรือจะใส่เสื้อที่มีแขนเล็ก ๆ ก็ทำให้ดูไม่สวย แต่พอตั้งใจลดต้นแขนขึ้นมาอย่างจริงจังด้วยการออกกำลังกาย สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นแขนที่ล่ำและดูมีกล้ามแทน เพราะแบบนี้หลายคนจึงยอมที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่ช่วยพรางต้นแขนใหญ่ ๆ แทน ใครที่เจอปัญหานี้อยู่ และไม่อยากจะต้องมานั่งปกปิดต้นแขนใหญ่ ๆ ตัวเองอีกต่อไป ขอแนะนำทางเลือกใหม่ที่สามารถช่วยลดต้นแขนได้ นั่นก็คือ CoolSculpting ค่ะ

CoolSculpting เทคโนโลยีการกำจัดไขมันด้วยความเย็นที่ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับโลกอย่าง US FDA ว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยลดไขมันได้จริง ด้วยการใช้คลื่นพลังงานความเย็นติดลบเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันในร่างกาย สิ่งที่ตามมาคือเซลล์ไขมันในร่างกายบริเวณที่ได้รับความเย็นจะตายลง และถูกกำจัดออกมาผ่านกระบวนการขับของเสียตามธรรมชาติของร่างกาย โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด หรือพักฟื้นให้เสียเวลา

ทั้งนี้ในกระบวนการลดไขมันด้วยความเย็นของ CoolSculpting จะใช้เวลาในการทำไม่เกิน 45 นาที โดยในเวลาเพียงเท่านี้ก็สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินไปได้ 20 – 30% ไม่เพียงเท่านั้น เพราะในระหว่างการทำผู้เข้ารับบริการจะไม่รู้สึกเจ็บ ไม่มีแผล ทำให้ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังจากทำ CoolSculpting ยิ่งถ้าออกกำลังกายและควบคุมอาหารร่วมด้วยจะยิ่งทำให้เห็นผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ต้นแขนฟิตกระชับขึ้น คืนความมั่นใจในการโชว์เรียวแขนสวยให้คุณได้อีกครั้ง บอกลาปัญหาแขนใหญ่และย้วยที่เคยสร้างความลำบากใจให้คุณไปได้เลยค่ะ

ได้ทราบแบบนี้แล้วก็คงจะสนใจเจ้าเทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยความเย็นกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจใช้วิธีลดไขมันแบบนี้โดยไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อนนะคะ เพราะถึงแม้จะเป็นเทคโนโลยีเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้าไม่ใช่ CoolSculpting ที่พัฒนาโดย Zeltiq ล่ะก็ ขอบอกเลยค่ะว่าเป็นของปลอม และของเลียนแบบแน่นอน ซึ่งถ้าไม่ใช่ของแท้แล้ว ก็อาจทำให้เสี่ยงต่ออาการเบิร์นเย็นสุดอันตราย และผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ยิ่งถ้าหากเจอผู้ให้บริการที่ไม่เชี่ยวชาญ ก็อาจทำให้ไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านการประเมิน และออกแบบรูปร่าง ผลลัพธ์ที่ออกมาก็อาจไม่ได้เป็นอย่างที่ต้องการได้ค่ะ

ฉะนั้นถ้าคิดจะลดไขมันด้วยความเย็น ต้องเช็กให้ดีว่าเป็นของแท้ และผู้ให้บริการมีความเชี่ยวชาญมากพอ ซึ่งที่ APEX เรามีเครื่อง CoolSculpting ที่เป็นของแท้ และมีทีม CoolSculpting Specialist ที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนมาอย่างเข้มข้น นอกจากนี้เรายังมีประสบการณ์ในการทำ CoolSculptin มาอย่างยาวนานด้วยจำนวนเคสที่มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย ผู้เข้ารับบริการจึงมั่นใจได้ว่า CoolSculpting จาก APEX จะปลอดภัย และให้คุณมีรูปร่างที่ดีได้อย่างที่หวังแน่นอนค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter

 

The post ต้นแขนใหญ่ ปั้นให้สวยด้วย CoolSculpting appeared first on Apex Profound Beauty.

บอกลา กางเกงเสริมก้น เปลี่ยนบั้นท้ายย้วยให้สวยด้วย EmSculpt

$
0
0

กางเกงเสริมส้น
กางเกงเสริมก้น ไอเทมลับของสาว ๆ หลายคนที่ช่วยทำให้มีบั้นท้ายที่สวยงาม ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้จะช่วยให้สาว ๆ ดูมีก้น แต่ก็ได้เพียงชั่วคราว เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณผู้หญิงไม่ได้ใส่กางเกงเสริมก้น ก็จะกลับมามีก้นย้วย ๆ หรือไม่มีก้นเหมือนเดิม แต่ครั้นจะให้ออกกำลังกายหนัก ๆ เพื่อลดก้นเพียงอย่างเดียวก็อาจจะช้าเกินไป หรือไม่ก็ได้ต้นขาใหญ่ ๆ มาแทน ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าจะมีวิธีไหนที่ช่วยปั้นก้นแบน ๆ ย้วย ๆ ให้กลับมาสวยได้อีกครั้งโดยไม่ต้องออกกำลังกายหนัก ๆ หรือไม่ต้องพึ่งพากางเกงเสริมก้นอีกต่อไป

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการปั้นก้นให้สวยโดยไม่ต้องพึ่งพากางเกงเสริมก้น หรือออกกำลังกายหนัก ๆ อยู่ละก็ ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่สามารถช่วยให้ก้นกระชับสวยได้โดยไม่ต้องออกกำลังกายหนัก ๆ อีกต่อไป เทคโนโลยีที่ว่านั้นก็คือ EmSculpt นั่นเองค่ะ

EmSculpt เทคโนโลยีการลดสัดส่วนด้วยคลื่นพลังงานที่ใช้คลื่นพลังงานอิเล็กโทรแม็กเนติก (HIFEM: High-Intensity Focused Electromagnetic Technology) เข้าไปกระตุ้นให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในบริเวณที่การออกกำลังกายไม่สามารถทำได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวใหญ่ขึ้น และเมื่อกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้มากขึ้น สามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินบริเวณดังกล่าวได้มากขึ้น ผลที่ได้ก็คือกล้ามเนื้อบริเวณที่ทำจะกระชับสวยมากขึ้น ขณะเดียวกันไขมันส่วนเกินบริเวณดังกล่าวก็จะลดลงด้วย เรียกว่าทำ 1 ได้ถึง 2 ในคราวเดียว

โดยในการทำแต่ละครั้งสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณที่ทำได้ถึง 19% และสามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ถึง 16% ซึ่งถ้าหากทำซ้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 2 สัปดาห์รวมทั้งหมด 4 ครั้ง ก็จะช่วยให้สัดส่วนบริเวณที่ทำ EmSculpt ดูดี และเป็นไปอย่างที่คาดหวัง โดยไม่ต้องเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายอีกต่อไป เหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นนิสัยอยู่แล้วแต่ต้องการมีรูปร่างที่ดูดีมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องการมีซิกแพ็ก และบั้นท้ายที่สวยงาม 

และถ้าหากคุณกำลังมองหาเทคโนโลยีลดสัดส่วน EmSculpt มาช่วยในการเสริมบั้นท้ายให้สวยงามอยู่ล่ะก็ ที่ APEX เราเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยี EmSculpt เข้ามาให้บริการ อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลตลอดการรักษา เพื่อให้คุณมีบั้นท้ายที่สวยงามและดูดีได้อย่างที่ต้องการ บอกลากางเกงเสริมก้น และการออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่เร็วทันใจด้วย EmSculpt จาก APEX ค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter

The post บอกลา กางเกงเสริมก้น เปลี่ยนบั้นท้ายย้วยให้สวยด้วย EmSculpt appeared first on Apex Profound Beauty.

ผมร่วงเต็มหมอน ฝันร้ายที่ต้องรีบแก้ก่อน หัวล้าน !

$
0
0

ผมร่วงเต็มหมอน
คงไม่มีใครที่เมื่อเห็น ผมร่วงเต็มหมอน แล้วจะไม่รู้สึกกังวล เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องผมร่วงแล้ว ถ้าหากไม่รีบรักษาก็อาจทำให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรงกว่านั้น นั่นก็คือปัญหาผมบาง และศีรษะล้าน ซึ่งจะยิ่งทำลายความมั่นใจ และบุคลิกภาพได้ และด้วยเหตุนี้เองเมื่อเริ่มเห็นเส้นผมที่ร่วงมากผิดปกติบนหมอน สิ่งที่ควรทำไม่ใช่มัวแต่กังวลใจ แต่เป็นการหาทางแก้ไขค่ะ

ทั้งนี้ในปัจจุบันก็มีวิธีการแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้าน มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเป็นการรับประทานยาเพื่อปรับฮอร์โมน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งแต่ละวิธีนั้นจะได้ผลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านที่เจอ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดจะดีที่สุด แล้วจึงค่อยวางแผนการรักษาต่อไป

แต่ถ้าหากการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านยังไม่ช่วยเติมเต็มความมั่นใจให้กับคุณ และคุณต้องการวิธีแก้ปัญหาที่เห็นผลเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่า การปลูกผมก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะการปลูกผมแบบ FUE ที่ปัจจุบันมีคลินิกปลูกผมหลายแห่งนำมาให้บริการ ด้วยเพราะเป็นเทคนิคการปลูกผมแบบใหม่ที่มีแผลผ่าตัดเล็กกว่าวิธีแบบเดิม ๆ อีกทั้งยังใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่ามาก ทำให้การปลูกผมวิธีนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ใช้ทุกแห่งที่ให้บริการปลูกผมเทคนิค FUE จะให้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกันหมด หากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ ก็อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีพอ ผมที่ขึ้นมาใหม่อาจดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือไม่เป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับบริการ

ฉะนั้นถ้าหากคิดจะใช้วิธีการปลูกผมเพื่อแก้ปัญหา ผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้าน ควรเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญ โดยคำนึงถึงประสบการณ์ของทีมแพทย์ และผลลัพธ์ที่เห็นเป็นประจักษ์จากรีวิวต่าง ๆ อย่ามัวแต่คำนึงถึงราคา และโปรโมชั่นที่ออกมาล่อตาล่อใจ เพราะผลที่ได้อาจยิ่งสร้างความปวดใจในระยะยาวได้

ซึ่งถ้าคุณกำลังมองหาคลินิกปลูกผมที่วางใจได้อยู่ละก็ ขอแนะนำที่ APEX ค่ะ เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมมายาวนานกว่า 25 ปี ด้วยการนำทีมของแพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการปลูกผมตัวจริง อีกทั้งยังมีเทคนิคการปลูกผมแบบ Advanced FUE อย่าง Robot Hair Transplant หรือการปลูกผมด้วยแขนกล ซึ่ง APEX เป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง ทำให้ผู้เข้ารับบริการสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดี ผมที่ขึ้นใหม่จะแน่น ดกดำ และดูเป็นธรรมชาติอย่างที่ต้องการ บอกลาปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน และเส้นผมที่ร่วงเต็มหมอน ด้วยการปลูกผมที่ APEX ค่ะ

 

สอบถามเพิ่มเติม และประเมินกราฟ โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/%40apexhaircenter

The post ผมร่วงเต็มหมอน ฝันร้ายที่ต้องรีบแก้ก่อน หัวล้าน ! appeared first on Apex Profound Beauty.

Viewing all 2628 articles
Browse latest View live