Quantcast
Channel: Apex Profound Beauty
Viewing all 2628 articles
Browse latest View live

ปัญหา ฝ้า กระ ทำยังไงก็ไม่หาย !!

$
0
0

ฝ้า กระ
ฝ้า กระ ปัญหาผิวที่สร้างความกังวลใจได้มากเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย อีกทั้งเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ยังทำให้ผิวขาดความเรียบเนียน ครั้นจะปกปิดปัญหาเหล่านี้ด้วยเครื่องสำอางก็ปกปิดได้ไม่หมด จนพาลทำให้หลายคนขาดความมั่นใจเลยก็ว่าได้ แต่ปัญหาฝ้า กระ เกิดขึ้นจากอะไร และมีวิธีใดที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้บ้าง เรามาทำความรู้จักกับปัญหาผิวเหล่านี้กันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ

ฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้า เป็นภาวะไฮเปอร์พิกเมนเทชั่น (Hyperpigmentation) ที่เกิดจากการที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป ทำให้ผิวบริเวณนั้นๆ เกิดปัญหา กระ ฝ้าขึ้น โดยปัจจัยที่ก่อให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติของกระบวนการสร้างเม็ดสีนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อาทิ

1. พันธุกรรม

การถ่ายทอดทางพันธุกรรมนับเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดกระบนผิวหน้า ซึ่งมักพบได้ในกลุ่มคนที่มีผิวขาวมาก ๆ เช่น คนยุโรป แต่ก็อาจพบได้ในกลุ่มคนเอเชียด้วยเช่นเดียวกัน

2. ฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในผู้หญิงส่งผลต่อการผลิตเม็ดสีเมลานินบนผิวหน้าได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนอยู่ในปริมาณที่สูงกว่าผู้หญิงทั่วไป จะมีแนวโน้มเกิดปัญหา กระ ฝ้าได้มากกว่า ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงมีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่เริ่มเข้าสู่วัยที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนก็มีโอกาสเกิดฝ้าบนใบหน้าได้เช่นกันค่ะ

3. แสงแดด

แสงแดดไม่เพียงแต่ทำให้ผิวหมองคล้ำลงเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อีกด้วย เพราะรังสียูวีที่อยู่ในแสงแดดนั้นมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีของผิวโดยตรง นอกจากนี้หากโดนแสงแดดบ่อย ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วยค่ะ

4. ผลข้างเคียงจากการรักษา

การรักษาด้วยวิธีการแพทย์บางอย่าง นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้วยังอาจส่งผลต่อผิวหน้าของเราได้อีกด้วย อาทิ การรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัด การรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาประจำตัว หรือวิตามินบางชนิด สิ่งเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีที่ผิวหน้ามาขึ้นจนกลายเป็นปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ในภายหลังค่ะ

อย่างไรก็ตามปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาที่น่าหนักใจอีกต่อไปแล้วค่ะ หากรู้จักวิธีการดูแลรักษาผิวอย่างถูกวิธี ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีที่ช่วยดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์หรือคลื่นพลังงานที่ได้รับการรับรองว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้

และที่ APEX เรามีคอร์สการดูแลผิวอย่าง Perfect White ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้พลังงานเลเซอร์ Q-Swtch หรือ Picosure ผสานกับการดูแลผิวด้วยคลื่นพลังงานแสง LED (Light-Emitting Diode) อย่าง Cryo Bright ที่จะช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาของเซลล์ และเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและออกซิเจน กระตุ้นระบบกลไกการทำงานของเซลล์ผิวให้เพื่อการฟื้นฟูตัวเอง พร้อมเติมวิตามินที่จำเป็นต่อผิวด้วย การใช้พลังงาน Cool Shock ผลักวิตามินลงสู่ใต้ชั้นผิว ผลที่ได้ก็คือผิวที่กระจ่างใส ฝ้าและกระจะลดลงได้อย่างเห็นได้ชัด ช่วยให้คุณบอกลาปัญหาผิวที่เคยมีไปได้เลยด้วยคอร์ส Perfect White จาก APEX ค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Line : @apexclear
Inbox: m.me/apexclear
Facebook: http://www.facebook.com/ApexClear/

The post ปัญหา ฝ้า กระ ทำยังไงก็ไม่หาย !! appeared first on Apex Profound Beauty.


รีวิวปลูกผม 6 เดือน ‘คุณต๊อกแต๊ก A4’ เต็มเติม หน้าผากกว้าง

$
0
0

หน้าผากกว้าง
หน้าผากกว้าง เป็นปัญหาที่น่าหนักใจของใครหลาย ๆ คน แถมยังส่งผลถึงความมั่นใจได้อีกด้วย ไม่เว้นแม้แต่คุณต๊อกแต๊ก a4 – เขมกร นพเคราะห์ หมอดูชื่อดังที่ได้รับฉายาว่า ‘หมอดูเงินล้าน’ ซึ่งก็เป็นคนหนึ่งที่สูญเสียความมั่นใจในการจัดแต่งทรงผมเนื่องจากปัญหา หน้าผากกว้าง แต่ด้วยการปลูกผมด้วยแขนกล (Robot Hair Transplant) ที่ APEX ซึ่งหลังปลูกผมเพียงไม่กี่เดือน ก็เติมความมั่นใจขึ้นได้เยอะเลยค่ะ และที่ปังมากกว่านั้นคือ งานโฆษณาเข้าแล้ว ล่าสุดทราบว่า เป็นหนึ่งใน Presenter โปรดักส์ชื่อดังอย่าง Nivea ด้วย ผลลัพธ์หลังปลูกผม 6 เดือนจะเป็นอย่างไร เรามีภาพมาให้ชมกันค่ะ

“ก็ต้องบอกเลยนะคะว่า หลังจากที่ได้เข้ามาปลูกผมที่ APEX บอกได้เลยว่า ด้วยคุณภาพของเครื่องไม้เครื่องมือ และบุคลากร ทำให้เรารู้สึกว่า การปลูกผมครั้งนี้ของเราประสบความสำเร็จ คือ หนึ่งเลยเนี่ย ไม่มีอาการบวมเลย แล้วพวกอาการแดง หรือเลือดออก อะไรผิดปกติ ไม่มีเลย ส่วนในเรื่องของพนักงาน สระผมไปก็ถามว่า คุณต๊อกแต๊กเจ็บไหม? เราก็บอกว่าไม่เจ็บเลย ไม่มีอาการแสบเลย พอออกมาวันที่ 1 แกะผ้าเสร็จก็กลับบ้านไป พอเช้าวันที่ 2 ก็ไปเรียนหนังสือ อาการบวมก็ไม่มี พอวันที่ 3 ก็ไปจัดรายการ ทำงานได้ตามปกติเลย APEX เขาจะใส่ใจรายละเอียดมาก ๆ ในเรื่องของยาสระผมฆ่าเชื้อ จริง ๆ ถามว่า ถ้าใครอยู่ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ แล้วจำเป็นว่าต้องเดินทางกลับ เขาก็จะมีแชมพูฆ่าเชื้อให้ พร้อมกับบอกวิธีสระผม แต่ถ้าจะให้ดีมาสระผมที่ APEX เลยจะดีที่สุด เพราะจะมีการฉายแสงด้วย Laser Hair Growth ใครที่กังวลในเรื่องของการมาปลูกผม ขอบอกว่าจริง ๆ แล้ว ที่ APEX ต้องบอกเลยว่าผู้เชี่ยวชาญ หรือพนักงานทุกคน มีประสบการณ์ในด้านการปลูกผมเยอะมาก ส่วนในเรื่องของคุณหมอ บอกเลยว่าเป็นมือหนึ่งมาก ๆ เลย สามารถไขข้อข้องใจให้เราได้ทุกอย่าง อย่างของเราเองก็แทบจะไม่มีความกังวลใด ๆ ทั้งสิ้นเลย ดูแลตัวเองแป๊บเดียว ไม่แดง และไม่มีอาการอะไรเลย ปลูกผมที่ไหนไม่เห็นผล ต้องมาที่ APEX เลยค่ะ”

และนี่คืออีกหนึ่งประสบการณ์จากผู้เข้ารับการปลูกผมด้วยเทคนิค Robot Hair Transplant ที่ APEX ซึ่งเห็นผลจริง ต้องขอบอกเลยว่าเรื่องความเชี่ยวชาญนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าไม่ใช่มือหนึ่งแล้วล่ะก็ โอกาสเห็นผลจะน้อย แถมยังอาจไม่ดูดกดำและ แน่นเป็นธรรมชาติอีกด้วย ฉะนั้น อย่างที่คุณต๊อกแต๊กบอกเลยค่ะว่า ถ้าปลูกที่ไหนไม่เห็นผล ต้องมาที่ APEX แล้วคุณจะรู้ว่าการปลูกผมที่เห็นผลจริง ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไปค่ะ สอบถามเพิ่มเติม และประเมินกราฟ โทร. 063-310-8000Line : http://line.me/ti/p/%40apexhaircenter

 

 

 

 

The post รีวิวปลูกผม 6 เดือน ‘คุณต๊อกแต๊ก A4’ เต็มเติม หน้าผากกว้าง appeared first on Apex Profound Beauty.

10 เซเลบริตี้ และดาราฮอลลีวูด ที่หุ่นสวยด้วย CoolSculpting

$
0
0

CoolSculpting
CoolSculpting เทคโนโลยีการกำจัดไขมันด้วยความเย็น ไม่ได้เป็นแค่เพียงเทคโนโลยีลดสัดส่วนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย แต่ยังถือเป็นทรีตเม้นท์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอีกด้วย โดยเฉพาะในบรรดาดาราและเซเลบริตี้ในวงการฮอลลีวูดที่ต่างไว้วางใจเทคโนโลยีการกำจัดไขมันด้วยความเย็นวิธีนี้ แต่จะมีใครกันบ้างนั้น วันนี้เราจะพาไปดูว่า มีดารา และเซเลบริตี้ฮอลลีวูดคนไหนบ้างที่วางใจให้ CoolSculpting ดูแลรูปร่างกันบ้างค่ะ

Jennifer Aniston

CoolSculpting

Khloé Kardashian

CoolSculpting

Lindsay Lohan

CoolSculpting

Mariah Carey

CoolSculpting

Kim Kardashian

CoolSculpting

Kris Jenner

Molly Sims 

Gretchen Rossi

Johnny Weir

Debra Messing

และนี่เป็นเพียงบางส่วนองเหล่าดารา และเซเลบริตี้แห่งวงการฮอลลีวูดที่ไว้วางใจให้ CoolSculpting เป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ถ้าอยากจะมีรูปร่างที่ดีเหมือนบรรดาเซเลบริตี้โดยไม่ต้องเจ็บตัวล่ะก็ ขอแนะนำว่าอย่ารอช้าค่ะ เพราะเรื่องของรูปร่างยิ่งเปลี่ยนแปลงเร็ว ความมั่นใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลยล่ะค่ะ

แต่ก็อย่าลืมว่าถ้าคิดจะทำ CoolSculpting ก็ต้องเลือกทำกับผู้ที่มีประสบการณ์ และมีรีวิวที่ดี เพราะผู้เชี่ยวชาญจะสามารถออกแบบรูปร่างให้คุณได้ดีกว่า อีกทั้งยังควรเลือก CoolSculpting ที่เป็นเทคโนโลยีของแท้ อย่าเลือกที่ราคา เพราะคุณอาจได้เครื่องเลียนแบบที่เสี่ยงต่อการเบิร์นเย็น หรือให้ผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพค่ะ

และที่ APEX เราเป็นที่ 1 ในเอเชียกับเคสการทำ CoolSculpting ที่มากที่สุด อีกทั้งเรายังมีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแล และให้คำปรึกษาคุณในเรื่องการทำ CoolSculpting เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และความพึงพอใจสูงสุดของผู้เข้ารับบริการค่ะ

 

ปรึกษา และสอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
FB inbox : click http://m.me/apexprofoundbeauty
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter

The post 10 เซเลบริตี้ และดาราฮอลลีวูด ที่หุ่นสวยด้วย CoolSculpting appeared first on Apex Profound Beauty.

รู้ยัง ? กาแฟ ช่วยเพิ่มพลังรักให้สาว ๆ ได้

$
0
0

กาแฟ
ไม่ว่าคู่รักคู่ไหน ๆ ก็ย่อมอยากจะมีกิจกรรมบนเตียงที่มีความสุขใช่ไหมล่ะคะ และเพราะเหตุนี้จึงทำให้ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้ชาย และคุณผู้หญิงต่างก็ต้องการตัวช่วยเพื่อให้กิจกรรมบนเตียง ราบรื่นมากขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นตัวช่วยเสริมความอึด และความแซ่บ แต่นอกจากนี้เรื่องของความต้องการทางเพศก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน และการรับประทานอาหารบางชนิดก็สามารถช่วยเสริมพลังรักให้เพิ่มขึ้นได้ แต่นอกเหนือจากนี้เครื่องดื่มแสนธรรมดาอย่าง กาแฟ ก็สามารถช่วยเสริมพลังรักให้กับผู้หญิงได้อีกด้วย !

ล่าสุดมีการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า กาแฟ สามารถช่วยสร้างความต้องการทางเพศได้ โดยในการศึกษาพบว่าคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟสามารถช่วยเพิ่มระดับโดปามีนในสมอง ซึ่งจะช่วยให้ความต้องการทางเพศ และความสุขทางเพศให้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถให้คุณสาว ๆ สนุกกับกิจกรรมรักให้นานยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้สาว ๆ ตื่นตัวอีกด้วย เรียกได้ว่าแค่เพียงดื่มกาแฟก็ช่วยให้กิจกรรมรักร้อนฉ่าขึ้นได้ แต่ก็ใช่ว่าวิธีนี้จะได้ผลกับสาว ๆ ทุกคนนะคะ เพราะในการศึกษานั้นพบว่าคาเฟอีนจะช่วยเสริมอารมณ์ทางเพศได้ในกลุ่มผู้หญิงที่ไม่ได้ดื่มกาแฟเป็นประจำ ฉะนั้นสาว ๆ คอกาแฟคนไหนที่ติดกาแฟชนิดที่ขาดไม่ได้ ก็อาจจะใช้วิธีนี้ไม่ได้ผลมากเท่าที่ควรค่ะ

แต่ถ้าคุณสาว ๆ ไม่อยากดื่มกาแฟ หรือว่าดื่มกาแฟไม่ได้ ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะว่ายังมีอาหารอื่น ๆ ที่สามารถช่วยเสริมอารมณ์ทางเพศให้คุณสาว ๆ ร้อนฉ่าได้เหมือนกัน หรือถ้าอยากได้วิธีอื่นนอกเหนือจากการรับประทานอาหาร ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยได้โดยที่คุณสาว ๆ ไม่ต้องไปเสาะหาอาหาร หรือตัวช่วยที่อาจเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้หญิงอีกต่อไป เทคโนโลยีที่ว่าก็คือ Emsella หรือเก้าอี้สร้างสุข เทคโนโลยีที่กำลังเป็นกระแสฮอตฮิตในขณะนี้นั่นเองค่ะ

Emsella เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพเพศที่ด้วยการใช้คลื่นพลังงาน HI-FEM (High Intensity Focused Electro Magnetic) หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง เข้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ทำให้เกิดการหดเกร็งมากกว่าการออกกำลังกายอุ้งเชิงกราน โดยในเวลาเพียง 28 นาทีก็เทียบเท่ากับการออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานถึง 11,200 ครั้ง ผลที่ตามมาหลังจากการทำ Emsella ก็คือ กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวจะแข็งแรงขึ้น และระบบเส้นประสาทใกล้เคียงทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อความต้องการทางเพศ ทำให้รู้สึกได้มากขึ้น และสนุกกับกิจกรรมรักได้นานยิ่งขึ้นโดยพึ่งยา หรืออาหารเสริม และไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังไม่ต้องพักฟื้น เหมือนกับการรักษาแบบเดิม ๆ ที่ผ่านมา บอกลาปัญหาแซ่บไม่สุด หรือไม่มีอารมณ์ร่วมไปได้เลยค่ะ

และที่ APEX เราเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่นำเอาเทคโนโลยี Emsella เก้าอี้สร้างสุขมาให้บริการในประเทศไทย อีกทั้งเรายังเป็นผู้นำในด้านการดูแลสุขภาพเพศมาอย่างยาวนาน คุณสาว ๆ จึงสามารถมั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเป็นปัญหาจุดซ่อนเร้น หรือปัญหาความสุขทางเพศก็สามารถหมดไปได้ที่ APEX ค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 063-310-8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen

The post รู้ยัง ? กาแฟ ช่วยเพิ่มพลังรักให้สาว ๆ ได้ appeared first on Apex Profound Beauty.

ระวัง ! ผงชูรส กินมาก ๆ ระวังเซ็กส์เสื่อม

$
0
0

ผงชูรส
ต้องยอมรับว่า ผงชูรส เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบในการแต่งเติมรสชาติอาหารที่ขาดไม่ได้ในอาหารหลาย ๆ จาน โดยเฉพาะอาหารรสจัด ๆ เนี่ยขาดผงชูรส หรือที่เรียกกันว่าผงนัวไปไม่ได้เลย แต่ทราบกันหรือเปล่าคะว่าการรับประทานผงชูรสมาก ๆ นอกจากจะส่งผลเสียกับสุขภาพแล้ว สำหรับคุณผู้ชาย ถ้าหากไม่อยู่ห่าง ๆ เจ้าผงชูรสไว้ล่ะก็ อาจทำให้ถึงขั้นเซ็กส์เสื่อมได้เลยล่ะค่ะ

โดยล่าสุดมีการศึกษาหลายฉบับในประเทศสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าการรับประทาน ผงชูรส ในปริมาณที่มาติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสมอง ทำให้กลไกการทำงานของสมองแย่ลง ซึ่งนอกจากจะทำให้สมองในเรื่องกลไกความคิด และความจำลดลงแล้ว สิ่งที่น่ากลัวไปยิ่งกว่านั้นก็คือ จะทำให้คุณหนุ่ม ๆ ความต้องการทางเพศและความสุขทางเพศลดลง ไม่เพียงเท่านั้น ยังอาจทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานผิดปกติ จนถึงขั้นเป็นหมัน และอวัยวะเพศเล็กลงได้เลยทีเดียว ! 

ได้ทราบแบบนี้ คุณหนุ่ม ๆ คงรู้สึกว่าน่ากลัวมากเลยใช่ไหมล่ะคะ ฉะนั้นทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผงชูรสกันดีกว่านะคะ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณหนุ่ม ๆ ห่างไกลจากปัญหานกเขาไม่ขัน หรือความต้องการทางเพศลดลงแล้ว ก็ยังช่วยให้สุขภาพของคุณหนุ่ม ๆ ดีขึ้นอีกด้วยล่ะค่ะ

และถ้าหากคุณหนุ่ม ๆ อยากจะเสริมความสุข และความพึงพอใจทางเพศให้เพิ่มขึ้นแล้วล่ะก็ วันนี้เรามีวิธีดี ๆ มาฝาก ซึงขอบอกเลยว่าวิธีนี้ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องรับประทานอาหารเสริม และไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงใด ๆ อีกด้วย ใช้เวลาเพียง 28 นาที ก็สามารถช่วยให้หนุ่ม ๆ อึดขึ้น ไม่ล่มปากอ่าวจนกิจกรรมรักต้องสะดุดอีกต่อไป

วิธีที่ว่านั้นก็คือเทคโนโลยี Emsella หรือ เก้าอี้สร้างสุข เทคโนโลยีใหม่เพื่อสุขภาพเพศอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแรกในโลกที่คุณหนุ่ม ๆ สามารถทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า บอกลาความรู้สึกอายจากการทำทรีตเม้นท์เพื่อเสริมสมรรถทางเพศแบบเดิม ๆ ไปได้เลย โดยในการรักษาด้วย Emsella นั้น คลื่นพลังงานอิเล็กโทรแม็กเนติกแบบเฉพาะเจาะจง HIFEM® (High-Intensity Focused Electromagnetic) จะถูกส่งเข้าไปเพื่อช่วยกระตุ้นระบบประสาท และกล้ามเนื้อบริเวณเชิงกราน ที่อยู่โดยรอบระบบสืบพันธุ์ให้เกิดการหดเกร็ง โดยใช้เวลาในการทำเพียง 28 นาที ก็เทียบเท่ากับการออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานถึง 11,200 ครั้ง ! ผลที่ได้ก็คือกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวจะแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งระบบประสาทที่ถูกกระตุ้นจะสามารถทำงานได้ดีมากขึ้น ส่งผลดีต่อความสุข และความพึงพอใจทางเพศของคุณผู้ชาย แถมยังช่วยให้สตาร์ทติดง่ายอีกด้วย เรียกได้ว่า สุขได้มากขึ้น นานขึ้นได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวอีกต่อไป

ถ้าหากคุณหนุ่ม ๆ คนไหนสนใจก็อย่ารอช้า เพราะ APEX เราได้นำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาให้บริการแล้วค่ะ ให้คุณหนุ่ม ๆ บอกลาปัญหาหงอย ๆ ของน้องชาย และกลับมาฟิตขึ้น อึดขึ้นได้ ด้วยเก้าอี้สร้างสุข Emsella จาก APEX ค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 063-310-8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen

The post ระวัง ! ผงชูรส กินมาก ๆ ระวังเซ็กส์เสื่อม appeared first on Apex Profound Beauty.

เลเซอร์ขน YAG plus ที่เอเพ็กซ์ดีอย่างไร ?

$
0
0

เลเซอร์ขน
ต้องยอมรับว่า ขน ถือเป็นเรื่องน่ากังวลอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจ ไม่ว่าจะเรื่องขนรักแร้ ขนบิกินี่ แล้ว จะยกแขน นุ่งสั้น หรือใส่บิกินี่ ถ้ามีขนแพลมก็อาจเสียเซลฟ์หนักไปยิ่งกว่าเดิม และถึงแม้ว่าการโกน ถอน หรือแว็กซ์อาจจะดูเป็นวิธีที่ง่าย และได้ผลเร็ว แต่ก็ล้วนแต่เป็นวิธีการกำจัดขนที่สร้างผลเสียที่ตามมามากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรอยแผล หรือขนคุด หนังไก่ ซ้ำร้ายยังอาจเกิดผิวหนังอักเสบตามมาหลังแว็กซ์ขนอีกด้วย ซึ่งก็มีให้เห็นแล้วตามข่าว ที่เกิดจากการติดเชื้อจากร้านแว็กซ์ขนที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ในปัจจุบันมีทางออกในการแก้ปัญหาเรื่องขนที่ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดีแล้วล่ะค่ะ ซึ่งวิธีนี้เป็นที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ นั่นก็คือ เลเซอร์กำจัดขน แต่การ เลเซอร์ขน ในแต่ละแบบต่างกันอย่างไร ลองมาดูกัน

เราอาจทราบกันแล้วว่า YAG LASER คือเลเซอร์ที่ถือว่าดีที่สุดที่เหมาะกับผิวเอเชีย  ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ในช่วงคลื่น 1064 นาโนเมตร แต่ในต่างประเทศที่คนส่วนใหญ่มักมีมีเส้นขนสีอ่อน หรือสีไม่เข้มมากนัก การใช้คลื่น YAG LASER ก็อาจให้ผลลัพธ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก ดังนั้น คลื่นพลังงานเลเซอร์ในช่วงคลื่น 880 นาโนเมตร อย่าง Diode LASER และ 750 นาโนเมตร อย่าง Alexandrite LASER  จึง 2 ช่วงคลื่นที่ได้รับความนิยมมากกว่า เพราะสามารถจัดการกับสีขนของชาวยุโรปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ด้วยการพัฒนาล่าสุดของเทคโนโลยี เลเซอร์ขน จึงได้มีการผสานเอาช่วงคลื่นที่ทำเลเซอร์ขนได้ดีในแต่ภูมิภาคมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็น YAG Laser ในช่วงคลื่น 1064 นาโนเมตร Diode LASER ที่มีช่วงคลื่น 880 นาโนเมตร และ Alexandrite LASER ที่อยู่ในช่วงคลื่น 750 นาโนเมตร เมื่อนำสามช่วงคลื่นนี้ผสานเข้าด้วยกัน และส่งพลังงานไปพร้อมกันในครั้งเดียว ผลที่ได้ก็คือ สามารถทำลายรากขนในทุกระดับชั้น ทั้งขนที่อยู่ลึก และตื้น ไม่ว่าจะเป็นขนสีเข้ม หรือขนสีอ่อน ไปได้พร้อมกันในคราวเดียว ทำให้การทำเลเซอร์กำจัดขนนั้นมีประสิทธิภาพมากขี้นกว่าที่เคย โดยนวัตกรรมนี้ ที่รู้จักกันในชื่อของ YAG plus ยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก Red dot อีกด้วย นับเป็นการพัฒนาครั้งสำหรับของวงการเลเซอร์ขนเลยทีเดียว

ได้ทราบกันแบบนี้แล้ว ใครที่ยังกังวลเรื่องเส้นขนอยู่ล่ะก็ อย่ารอช้าค่ะ เพราะล่าสุดที่ APEX เรามีเทคโนโลยีเลเซอร์ YAG plus ให้บริการแล้ว อย่าปล่อยให้ปัญหาเส้นขนทำลายความมั่นใจของคุณอีกต่อไป ด้วย YAG plus จาก APEX ค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter

The post เลเซอร์ขน YAG plus ที่เอเพ็กซ์ดีอย่างไร ? appeared first on Apex Profound Beauty.

เทคนิคยกกระชับสาว วัยทอง

$
0
0

เทคนิค ยกกระชับ สาววัยทอง

คำว่า วัยทอง แค่พูดเบา ๆ ก็เจ็บ พอเห็นคำนี้ในความคิดใครหลายคนคงหนีไม่พ้นเรื่องอายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวแห้ง เหี่ยวย่น มีริ้วรอยไม่พึงประสงค์เพิ่มบนหน้า พูดง่าย ๆ คือแก่แล้วนั่นแหละค่ะ แต่ที่จริงแล้วคำนี้ไม่ได้จะแสดงถึงความแก่ชราเพียงอย่างเดียวนะคะ

วัยทองเป็นคำที่ใช้เรียกช่วงวัยอันรุ่งโรจน์เรืองรองของชีวิตต่างหาก นับกันตั้งแต่ช่วงอายุ 40 ปี ไปจนถึง 59 ปี โดยประมาณ เหตุที่เรียกกันเช่นนี้ เป็นเพราะคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป จะมีหน้าที่การงานมั่นคงแล้ว มีครอบครัว และมีสังคมที่ดี ถือเป็นวัยแห่งความสำเร็จของชีวิต แต่ส่วนมากแล้วผู้คนก็ไม่ได้โฟกัสไปที่ความหมายจริง ๆ ของคำนี้สักเท่าไหร่นัก วัยทอง เลยกลายเป็นคำเรียกภาวะหนึ่งของร่างกายเมื่ออายุคุณก้าวเข้าสู่วัย 40+ โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงที่คงไม่ชอบได้ยินคำนี้กันสักเท่าไหร่

ผู้หญิง วัยทอง (Menopause)

ผู้หญิงวัยทอง (Menopause) คือ ผู้หญิงที่ร่างกายเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป จะเป็นเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วยนะคะ หรือจะเรียกว่าช่วงเจริญพันธุ์เข้าสู่วัยสูงอายุก็ไม่ผิดนัก เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจ มีผลเกี่ยวเนื่องมาจากรังไข่ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนเพศหญิงจะหยุดทำงาน ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงทั้ง 2 ตัว ได้แก่ เอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ถูกผลิตน้อยลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่มีการผลิตอีก ผู้หญิง วัยทอง จึงสิ้นสุดการมีประจำเดือนตามไปด้วย ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่สำหรับผู้หญิงเลยทีเดียว

วัยทอง ยกกระชับ

สิ่งที่ผู้หญิงวัยทองมักกังวล

‘กลัวแก่’ นี่น่าจะเป็นความคิดแวบแรกของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่พบเจอกับ วัยทอง ถึงแม้จะพยายามหลีกเลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้น เพราะเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกาย อายุเพิ่มมากขึ้นย่อมมีสิ่งที่ต้องสูญเสียหรือขาดหายไป และสิ่งแรกที่จะค่อย ๆ หดหายจนหมดไป คือ ฮอร์โมนเพศนี่แหละค่ะ โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งทำหน้าที่หลัก ๆ เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง เมื่อระดับฮอร์โมนไม่เพียงพอเลยทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ร้อนวูบวาบตามร่างกาย เหงื่อออกมากผิดปกติ ควบคุมอารมณ์ได้ยาก เป็นต้น

อีกประการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังแก่ขึ้นก็คือ ริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้า ตามบริเวณหน้าผาก หางตา ร่องแก้ม แถวใต้คางลงไปตามลำคอก็มีความหย่อนคล้อย ผิวไม่ยืดหยุ่น คืนตัวช้ากว่าเดิม ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งปัญหาริ้วรอยทั้งหลายที่สร้างกังวลใจในวัยทองนั้น สาเหตุหลักคือ ฮอร์โมนเพศที่ขาดหายไปนี่แหละค่ะ ฮอร์โมนเพศเปรียบเหมือนแหล่งกักเก็บน้ำและแร่ธาตุในเซลล์ เมื่อฮอร์โมนหายไปผิวหนังจึงเกิดการเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ลักษณะผิวพรรณแปรเปลี่ยนไป คือ หยาบขึ้น และแห้งกร้าน ซึ่งถือเป็นอีก หนึ่งตัวการใหญ่ที่ทำให้ผู้หญิงดูแก่กว่าอายุจริง

ขอเสริมเล็กน้อยนะคะ ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงวัยทองเท่านั้นที่สูญเสียฮอร์โมนเพศได้ ในผู้หญิงบางรายที่ทำการผ่าตัดรังไข่ออก ก็สามารถสูญเสียฮอร์โมนเพศไปอย่างกระทันหันได้เช่นกัน เมื่อรังไข่หายไปก็เท่ากับว่าร่างกายไม่มีแหล่งผลิตฮอร์โมนเพศไปหล่อเลี้ยงตามอวัยวะที่ต้องการได้อีก ร่างกายของผู้หญิงที่ไม่มีรังไข่แล้ว จึงเข้าสู่ช่วงถดถอยได้เหมือนกับผู้หญิงวัยทองเลยค่ะ

เทคนิค ยกกระชับ วัยทอง

ปัญหาผิวแห้งเหี่ยวเพราะฮอร์โมนขาดหายสามารถแก้ได้

เรื่องความแก่ ไม่ว่าจะจาก วัยทอง หรือโดนตัดรังไข่ การที่ฮอร์โมนเพศหมดไปถือเป็นธรรมชาติของร่างกายที่ต้องเกิดแบบหลีกเลี่ยงได้ยากอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่กลุ่มหนึ่งจะเป็นไปตามวัย แต่อีกกลุ่มจะเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำถือว่าสำคัญมากนะคะ แต่สำหรับบางคนการดูแลตัวเองด้วยวิธีการทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าไม่เพียงพอ และยังไม่สามารถเรียกความมั่นใจกลับมาได้ดังเดิม

ยิ่งเฉพาะเรื่องผิวพรรณที่มันแห้งเหี่ยวลง มีรอยยับย่น ไม่ชุ่มชื้น ไม่ยืดหยุ่น เพราะฮอร์โมนเพศหญิงขาดหาย การที่ดูแก่ขึ้นมักเป็นความกังวลใหญ่ ๆ ของคุณผู้หญิง วัยทอง แม้จะพยายามประทินผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงสารพัดให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ แต่กลับยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ หรือบางทีเสียเงินซื้อไปตั้งหลายรอบ รวม ๆ แล้วก็ราคาแรงอยู่ แต่ดันใช้ไม่เห็นผลเสียแบบนั้น

แต่โชคดีนะคะ ที่เทคโนโลยี นวัตกรรมต่าง ๆ ในปัจจุบันถูกพัฒนาและผลิตสู่ตลาดเสริมความงามอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีเครื่องมือที่เน้นการยกกระชับผิวพรรณอยู่หลายตัวทีเดียวค่ะ ที่จะช่วยย้อนวัยให้คุณได้แบบคุ้ม ๆ จ่ายแค่ครั้งเดียวก็ช่วยให้คุณได้ผิวสวย ๆ เต่งตึง นุ่มฟู กลับคืนมาแล้ว แถมผลลัพธ์ยังเห็นชัดและคงอยู่ได้นานเป็นปีด้วยนะคะ ลองมาดูกันว่ามีอะไรที่ช่วยยกกระชับ เรียกคืนความอ่อนเยาว์กลับมาหาคุณได้บ้าง

อัลเทอรา

อัลเทอร่า (Ulthera) หรือ อัลเทอราพี (Ultherapy) เป็นหัตถการที่ฮอตฮิตได้รับความนิยมสูงสุดที่เอเพ็กซ์ เป็นนวัตกรรมที่ใช้พลังงาน Focused Ultrasound ยิงลงลึกสู่ใต้ชั้นผิวหนัง SMAS (ระดับชั้นผิวเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า) ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน กระตุ้นไปที่เซลล์จนเกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ นอกจากหน้ายกกระชับแล้วผิวยังดูเรียบเนียนอีกด้วยค่ะ

thermage flx

เทอร์มาจ (Thermage) เป็นหัตถการที่มีมากว่า 10 ปี จนมาถึงเจเนอเรชันล่าสุดคือ Thermage FLX ซึ่งเป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (RF : Radio Frequency) ความถี่สูงเพื่อลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปใบหน้าให้ยกกระชับ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความร้อน ส่งลงสู่ชั้นผิวหนัง Dermis (ตื้นกว่าชั้นผิวหนัง SMAS เล็กน้อย) แก้ปัญหาเส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อย ขาดการยืดหยุ่นสปริงตัว ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดกลับและมีเกลียวที่ขึงตึงขึ้น ถ้าใครจับหน้าแล้วแก้มนิ่ม ๆ ห้อย ๆ ต้องจัดตัวนี้เลยค่ะ

ร้อยไหมอิตาลี แบบโอ๋ ภัคจีราไหมอิตาลี

ร้อยไหม (Thread Lifting) ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี โดยผิวหน้าหรือบริเวณที่ถูกร้อยไหมเข้าไป จะถูกเกี่ยวยกขึ้น ผิวที่หย่อนคล้อยใน วัยทอง จะถูกยกกระชับ ทำให้เต่งตึง ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น และยังช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน อิลาสติน รวมถึงกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นด้วย ไหมที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้คือ ไหมอิตาลี ซึ่งใช้เทคนิคการร้อยแบบพิเศษ ใช้ไหมเพียงข้างละ 1-2 เส้น สามารถยกกระชับหน้าและเก็บเหนียงได้ดีเลยค่ะ ที่สำคัญไหมอิตาลีเป็นเพียงชนิดเดียวที่ได้รับรองจาก อย. เรื่องการยกกระชับ

Botox USA โบท็อกซ์ดื้อ โบท็อกซ์

โบท็อกซ์ (Botox) หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ไทป์ เอ (Botulinum toxin Type A) ที่เอเพ็กซ์เลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้คุณ เราจึงมีโบท็อกซ์เพียงยี่ห้อเดียวคือ Botox USA จากบริษัท Allergan โบท็อกซ์ใช้สำหรับลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับใบหน้าและลำคอ ปรับรูปหน้าให้เรียว รวมถึงช่วยลดขนาดน่องและกรามได้ด้วย โบท็อกซ์หากฉีดในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ๆ ลดการขยับกล้ามเนื้อให้น้อยลง ริ้วรอยที่เคยเกิดจึงหายไป

ฟิลเลอร์ 10 ความเชื่อ 02 filler

ฟิลเลอร์ (Filler) คือการฉีดสารเติมเต็ม ที่เรียกว่า เอชเอ (HA) หรือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเข้าไปทดแทนและเติมเต็มใยคอลลาเจนใต้ผิวที่เสื่อมสลาย ช่วยพยุงโครงหน้าให้เกิดการยกกระชับ ฟิลเลอร์มีอยู่หลายชนิดเพื่อช่วยแก้ปัญหาในจุดที่ต่างกันไปบนใบหน้า

ขอแอบกระซิบเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์เล็กน้อยนะคะ นอกจากช่วยเรื่องผิวหน้า ผิวกายแล้ว ยังช่วยในบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ด้วย คุณผู้หญิงที่ขาดฮอร์โมนเพศจะมีปัญหาเกี่ยวกับน้องสาวที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปด้วยค่ะ อย่างเช่น ขนาดเล็กลง แบนราบ คลิตอลิสจะหดเล็ก แคมเล็กแคมใหญ่ก็จะเหี่ยวเล็กลง เป็นต้น การฉีดฟิลเลอร์น้องสาวสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ เมื่อฉีดแล้วจะช่วยฟื้นฟู ทำให้ดูอวบอิ่ม ปรับสีผิว และปรับรูปลักษณ์ของน้องสาวให้กลับมาเหมือนเก่านั่นเองค่ะ

เรื่องฮอร์โมนเพศหมดไป หรือเป็น วัยทอง ถือเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ๆ ที่ต้องเกิดกับผู้หญิงทุกคน ดังนั้นอย่ากังวลมากเกินไปนัก ฮอร์โมนหมดไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องกลายเป็นคนไม่สวยไปเสียหน่อยค่ะ แต่คุณอาจจะต้องดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเพื่อคงความอ่อนเยาว์เอาไว้ อย่าปล่อยให้ร่วงโรยก่อนแล้วค่อยแก้ไข เพราะถึงเวลานั้นอาจจะย้อนคืนตามธรรมชาติได้ยากกว่า

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าหัตถการแบบใดที่เหมาะกับตัวเอง หรือมีปัญหาผิวแห้งเหี่ยวเพราะวัยทองสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูก่อนก็ได้นะคะ ที่ APEX ของเรามีแพทย์มากประสบการณ์ในการยกกระชับคอยให้คำปรึกษาคุณอยู่ สามารถจองคิวได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ

The post เทคนิคยกกระชับสาว วัยทอง appeared first on Apex Profound Beauty.

รีวิวปลูกผม 10 เดือน กับ APEX ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ !

$
0
0

รีวิวปลูกผม
หน้าผากลึก เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำลายความมั่นใจได้มากเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเสยผม หรือเซ็ต ก็ยังคงเห็นได้ชัด จนทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะไว้ผมหน้ายาวเพื่อปิดบังบริเวณนี้ เช่นเดียวกับคุณภัคพงศ์ ที่เป็นคนหนึ่งที่มีปัญหานี้ และเลือกที่จะจบปัญหาหน้าผากลึกด้วยการปลูกผมที่ APEX ค่ะ นี่คือประสบการณ์ ความประทับใจ และ รีวิวปลูกผม Robot Hair Transplant จากลูกค้าตัวจริงค่ะ

ปัญหาก่อนปลูกผม ?

“ปัญหาส่วนใหญ่ก็คือการเซ็ตผม เพราะว่าไม่สามารถจะเช็ตตั้งได้เลย เพราะว่าเซ็ตตั้งมันจะรู้สึก หน้าผากมันลึก ก็ไม่มั่นใจครับ ”

รีวิวปลูกผม
รีวิวปลูกผม

หลังจากปลูกผมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ?

“ มั่นใจขึ้นเยอะเลยครับ เช็ตผมได้ตามใจเลยครับ เซ็ตตั้งได้เลย จะเสยผม จะถ่ายรูปเซลฟี่ หรือว่าลงวิดีโอทำได้เลยครับ จะลมพัดอะไรก็มั่นใจครับ เมื่อก่อนลมพัดก็จะเห็นหน้าผากลึกเลย ตอนนี้ก็ผมหนา เพื่อน ๆ ก็มาทักว่าปลูกผมมาหรือเปล่า ไปทำอะไรมา รู้สึกดีมากเลยครับ ”

รีวิวปลูกผมปลูกผม

และนี่คือหนึ่งในลูกค้าตัวจริงที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาด้วยการปลูกผม ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าถ้าอยากให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีแบบนี้ก็ต้องเลือกปลูกผมกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และต้องเลือกคลินิกที่มีประสบการณ์ในด้านการปลูกผม อีกทั้งมีรีวิวปลูกผมที่ดีนะคะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง

และที่ APEX เรามีทั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีเทคโนโลยีการปลูกผมด้วยเทคนิค Robot Hair Transplant ซึ่งเป็นเทคนิคการปลูกผมแบบใหม่ เมื่อผสานกับความเชี่ยวชาญของแพทย์ ก็ยิ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูดี แน่น และเป็นธรรมชาติมากขึ้น บอกลาความกังวลเรื่องผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน แบบคุณภัคพงศ์ไปได้เลยค่ะ 

 

สอบถามเพิ่มเติม และประเมินกราฟ โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/%40apexhaircenter

The post รีวิวปลูกผม 10 เดือน กับ APEX ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ ! appeared first on Apex Profound Beauty.


กินน้อยแต่อ้วน กินน้อย แต่ไม่ผอมสักทีเพราะอะไร ?

$
0
0

กินน้อยแต่อ้วน
การควบคุมอาหาร เป็นหนึ่งในวิธีการลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถเริ่มทำได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งการเลือกรับประทานอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผอม หรืออ้วนขึ้นได้ และเพราะแบบนี้เลยทำให้คนที่ต้องการลดน้ำหนักส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะรับประทานอาหารให้น้อยลงกว่าเดิม ทว่าก็มีหลายคนที่ต้องพบว่าแม้จะ กินน้อยแต่อ้วน หรือไม่ผอมลงอย่างที่ต้องการเสียที ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ หรือเป็นเพราะว่าคุณยังกินมากไปนะคะ เพราะจริง ๆ แล้วมันแปลว่าคุณกำลังมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ผิด ๆ ซึ่งส่งผลอันตรายถึงสุขภาพได้เลยล่ะค่ะ

การหักโหมลดปริมาณอาหารที่รับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยค่ะ เพราะการที่เรากินน้อยลงติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ โดยที่ปริมาณอาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นมีสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะทำให้ร่างกายเข้าใจว่าเรากำลังขาดสารอาหาร และอยู่ในภาวะใกล้อดตาย และทำให้ร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะจำศีลโดยอัตโนมัติ ซึ่งในภาวะนี้ร่างกายจะลดการเผาผลาญพลังงานลงให้เหลือแค่เท่าที่จำเป็นต้องร่างกาย นั่นหมายความว่าร่างกายจะหยุดเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย เพื่อเก็บสะสมไขมันไว้เป็นพลังงานสำรอง ในขณะเดียวกันก็จะสลายกล้ามเนื้อเพื่อเอาโปรตีนมาเผาผลาญเป็นพลังงาน เนื่องจากกล้ามเนื้อจะต้องใช้พลังงานในการเก็บรักษามากกว่าไขมัน ดังนั้นผลที่ตามมาก็คือ ร่างกายจะดูเหมือนน้ำหนักลง แต่จริง ๆ แล้วเป็นปริมาณกล้ามเนื้อและน้ำในร่างกายที่ลดลง แต่ปริมาณไขมันยังอยู่เท่าเดิม จึงไม่ได้ดูผอมลงจริง ๆ อย่างที่ต้องการ มิหนำซ้ำยังเสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้อสลายที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้อีกด้วย

ได้ทราบแบบนี้แล้ว ใครที่เลือกลดอาหาร หรืออดอาหาร ควรเปลี่ยนความคิดใหม่จะดีที่สุดค่ะ เพราะถ้าอยากจะผอมแบบยั่งยืนแล้วล่ะก็ ควรหันมาเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์มากขึ้น อีกทั้งยังควรเน้นไปที่การลดไขมันในร่างกายมากกว่า ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักจะดีกว่า เพราะจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี และรูปร่างที่ดีได้โดยไม่ต้องมานั่งกังวลกับตัวเองว่า กินน้อยแต่อ้วน อีกต่อไปค่ะ

ทั้งนี้ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีในการลดไขมันมากมายหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมัน การลดไขมันด้วยคลื่นพลังงานความร้อน หรือคลื่นพลังงานแม่เหล็ก แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันนั่นก็คือ เทคโนโลยีการลดไขมันด้วยความเย็น หรือ CoolSculpting นั่นเอง

CoolSculpting เทคโนโลยีลดไขมันด้วยความเย็นที่ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับโลกว่าให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณที่มีความกังวลได้โดยใช้เวลาในการทำเพียง 35 – 45 นาที แถมในการทำเพียงครั้งเดียวก็สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณนั้น ๆ ได้ 20 – 30% โดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น เพียงแค่นอนสบาย ๆ และปล่อยให้เครื่อง CoolSculpting ปล่อยความเย็นเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันบริเวณที่ทำตายลง หลังจากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ กำจัดซากเซลล์ไขมันออกจากร่างกาย ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 – 3 เดือนก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้อย่างชัดเจนแล้วล่ะค่ะ

ทราบกันแบบนี้แล้ว น่าสนใจใช่ไหมล่ะคะ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามัวแต่รอช้าหรือลังเลอีกต่อไปค่ะ เพราะที่ APEX เรามีเทคโนโลยี CoolSculpting และทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรม และฝึกฝนความรู้ความเชี่ยวชาญอยู่อย่างสม่ำเสมอที่พร้อมดูแลให้คุณกลับมามีรูปร่างที่ดีตามอย่างที่หวัง บอกลาสัดส่วนที่เคยสร้างความกังวลใจด้วย CoolSculpting จาก APEX สิคะ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ

 

ปรึกษา และสอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
FB inbox : click http://m.me/apexprofoundbeauty
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter

The post กินน้อยแต่อ้วน กินน้อย แต่ไม่ผอมสักทีเพราะอะไร ? appeared first on Apex Profound Beauty.

รีวิวปลูกผม 7 เดือน เปลี่ยนแปลงจริง ! คืนความมั่นใจได้จริง !

$
0
0

ีรีวิวปลูกผม
ต้องขอบอกเลยว่า ปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้าน ทำลายความมั่นใจให้กับหลาย ๆ คนได้อย่างมาก ยิ่งถ้าหากทำงานที่ต้องพบปะกับคนมากมายด้วยล่ะก็ ศีรษะที่ล้านจนสังเกตได้นั้นก็ยิ่งบั่นทอนกำลังใจเลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกับ คุณตั้ม ครูสอนเต้นคนเก่ง ที่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยโดยคนรอบข้างทักเรื่องศีรษะล้านจนทำให้หมดความมั่นใจ แต่หลังจากเข้ารับการปลูกผมด้วยเทคนิค Robot Hair Transplant หรือวิธีการปลูกผมด้วยแขนกลกับที่ APEX แล้วก็มีความรู้สึกที่ดีมากขึ้น มั่นใจมากขึ้น วันนี้เราจะพาไปดู รีวิวปลูกผม 7 เดือน ของคุณตั้ม ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร และรู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ

Q : ปัญหาก่อนหน้านี้ที่ทำให้มาปลูกผมเป็นอย่างไรบ้าง ?

A : ปัญหาของตั้มก็คือ ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ซึ่งก็ทำให้ตั้มไม่กล้าเสยผมขึ้น และด้วยความที่เราเริ่มมีอายุแล้ว จนวันหนึ่งได้ไปออกงาน แล้วนักเรียนเริ่มทัก ความมั่นใจต่าง ๆ ที่เรามีมันก็ เห้ย เรารู้สึกว่า เราต้องทำอะไรกับตัวเองสักอย่างหนึ่งแล้ว เลยเลือกวิธีปลูกผมครับ

รีวิวปลูกผมรีวิวปลูกผมรีวิวปลูกผม

Q : หลังจากปลูกผมไปแล้วมีคนทักไหม ?

A : ต้องบอกว่าที่นี่ ปลูกผมแล้วเปลี่ยนชีวิตตั้มได้มาก ๆ เลยครับ เพราะว่าคนรอบข้างก็จะทักมากขึ้น ผมขึ้นเป็นธรรมชาติด้วย แล้วตัวเองเป็นคนชอบเซลฟี่ ชอบถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก แล้วก็ช่วยในการปรับรูปหน้าดูเด็กขึ้น เปลี่ยนชีวิตมากขึ้น คือเมื่อก่อนเราต้องเซ็ตผมมาปิด เดี๋ยวนี้ไม่เลยครับ พอสระผมแล้วเนี่ย ใช้ไดร์เป่าแล้วก็ออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ 

Q : มีวิธีเลือกคลินิกปลูกผมยังไงบ้าง ?

A : จริง ๆ แล้วสำคัญมาก ก่อนที่ตั้มจะเลือกมาปลูกผม เชื่อว่าทุกคนต้องดูรีวิวต่าง ๆ แล้วก็ในเรื่องของความน่าเชื่อถือ มันสำคัญมาก ๆ เพราะว่าเราเสียเงินไปแล้ว เราก็ต้องได้รับผลลัพธ์ที่ดีนะครับ จะบอกว่าที่นี่ คือตั้มดูรีวิวเยอะ แล้วก็มีนักแสดงหลาย ๆ ท่านได้มาปลูกผมที่นี่ บอกได้เลยครับว่าสุดยอดมาก ๆ ครับ

นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง รีวิวปลูกผม จากลูกค้าตัวจริงที่เข้ารับการปลูกผมด้วยแขนกลที่ APEX ต้องขอบอกเลยว่ายังผู้เข้ารับบริการอีกหลายคนที่ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อเข้ารับการปลูกผมกับ APEX เพราะเรานอกจากให้บริการปลูกผมอย่างเป็นมืออาชีพแล้ว เรายังมีการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังเข้ารับการปลูกผม จนกว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด ปลูกผมที่ไหนแล้วไม่เห็นผล ต้อง Robot Hair Transplant ที่ APEX แล้วคุณจะรู้ว่าการมีผมที่แน่น และกลับมาดกดำอีกครั้งไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินฝันอีกต่อไปค่ะ

 

สอบถามเพิ่มเติม และประเมินกราฟ โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/%40apexhaircenter

The post รีวิวปลูกผม 7 เดือน เปลี่ยนแปลงจริง ! คืนความมั่นใจได้จริง ! appeared first on Apex Profound Beauty.

วิธีดูแล รีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพฟันสวย

$
0
0

รีเทนเนอร์
รีเทนเนอร์ ตัวช่วยสำคัญที่คนจัดฟันหรือกำลังคิดจะจัดฟันรู้จักดี เพราะการจัดฟันอย่างเดียวยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ และฟันมีการเคลื่อนตัวอยู่เสมอ ดังนั้น จึงต้องใช้รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันต่อไปสักระยะ ไม่อย่างนั้น ฟันที่อุตส่าห์จัดมาอาจล้ม เคลื่อนที่ จนต้องกลับไปจัดฟันใหม่อีกรอบได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายแบบให้เลือกใส่อย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของทันตแพทย์

ดังนัน เมื่อต้องอยู่กับรีเทนเนอร์ไปอีกพักใหญ่ เราจึงมีคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้ชำนาญการของ Apex ในการดูแลรีเทนเนอร์ของคุณให้สามารถใช้งานได้นานๆ

รีเทนเนอร์ ใส่และถอดให้ถูกต้อง

ช่วง 1-2 ปีแรกหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน คุณควรใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ถอดออกเวลารับประทานอาหารกับแปรงฟันเท่านั้น ช่วงที่ถอดออกอย่าลืมเก็บรีเทนเนอร์ไว้ในกล่องเก็บ เพื่อป้องกันปัญหารีเทนเนอร์ตกแล้วเสียรูป หรือทำรีเทนเนอร์หาย

สำหรับคนที่ใส่รีเทนเนอร์แบบลวด เวลาถอดควรใช้นิ้วเกี่ยวลวดบริเวณฟันหลังหรือส่วนที่เป็นขอบของฐานอะคริลิก ไม่ควรดึงบริเวณที่พาดอยู่บนฟันหน้า เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์เสียหายได้

ทำไมต้องถอดรีเทนเนอร์ก่อนรับประทานอาหาร?

สำหรับรีเทนเนอร์แบบถอดได้ทุกชนิด ทันตแพทย์จะแนะนำให้ถอดออกก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง เพราะถ้าไม่ถอดจะทำให้อายุการใช้งานของรีเทนเนอร์ลดลงเรื่อยๆ

ถ้าเป็นรีเทนเนอร์แบบใส แรงบดเคี้ยวจะทำให้รีเทนเนอร์ซึ่งมีวัสดุเป็นฐานพลาสติกแตกหัก ถ้าเป็นรีเทนเนอร์แบบลวด ก็จะหักงอผิดรูปได้

นอกจากนี้เศษอาหารยังจะไปติดสะสมบนรีเทนเนอร์ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นต่อไปอีกด้วย

วิธีรักษาและทำความสะอาดรีเทนเนอร์ที่ถูกต้อง

ควรล้างน้ำลายและคราบสกปรกทันทีหลังถอดรีเทนเนอร์ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ทำความสะอาดได้ยากขึ้น จากนั้นใช้แปรงสีฟันชนิดขนนุ่มกับน้ำอุ่นที่ผสมยาสีฟันหรือน้ำยาล้างจานในปริมาณเล็กน้อย แปรงรีเทนเนอร์เบาๆ ก่อนใช้ก้านสำลีเช็ดบริเวณร่องในรีเทนเนอร์ ซึ่งเป็นแปรงสีฟันอาจเข้าไม่ถึง

บางกรณี ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ใช้สารละลายพิเศษสำหรับทำความสะอาดโดยเฉพาะ เพื่อขจัดคราบฝังแน่น ซึ่งคุณสามารถปรึกษาทันตแพทย์ก่อนได้ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเสมอ

ทำอย่างไรเมื่อรีเทนเนอร์หักหรือหาย?

ถ้าจู่ ๆ รีเทนเนอร์ของคุณเกิดหักหรือหายไปเลย อย่านิ่งนอนใจ ให้รีบกลับมาพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อทำรีเทนเนอร์คู่ใหม่ให้เร็วที่สุด ป้องกันฟันเคลื่อนตัว หากเป็นไปได้ก็ควรพบทันตแพทย์จัดฟันท่านเดิม

ปรึกษาการทำรีเทนเนอร์จากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ APEX Dental Center และจองบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น มีแอดมินดูแลทุกวันตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงตีหนึ่ง วันนี้ ทาง HDmall แพลตฟอร์มที่ให้บริการจองแพ็กเกจสุขภาพ ทำฟัน ความงาม จากคลินิก โรงพยาบาล ร้านเสริมสวยกว่า 800 แห่งทั่วไทย!

ที่มาของข้อมูล
HDmall, รวมข้อมูลและคำถามพบบ่อยเกี่ยวกับรีเทนเนอร์

The post วิธีดูแล รีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพฟันสวย appeared first on Apex Profound Beauty.

6 วิธี ทำฟัน เพื่อใบหน้าสวย โดยไม่ต้องศัลยกรรม

$
0
0

ทำฟันสมัยนี้การมีใบหน้าสวยน่ามอง ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเองได้ ซึ่งก็มีหลากหลายวิธีที่สามารถช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำทรีตเม้นท์ด้วยคลื่นพลังงาน การฉีดสารเติมเต็มหรือปรับรูปหน้า การผ่าตัดศัลยกรรม แต่ก็นอกจากนี้ยังมีวิธีทางทันตกรรมที่สามารถช่วยปรับใบหน้าให้ดูสวยน่ามองมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้มีรอยยิ้มที่สวยงาม โดยไม่ต้องเจ็บตัวผ่าตัด หรือศัลยกรรมอีกต่อไป และนี่คือ 6 วิธี ทำฟัน เพื่อใบหน้าสวยได้โดยไม่ต้องศัลยกรรมที่ขอหยิบมาฝากกันค่ะ

1. จัดฟัน invisalign

ทำฟัน

การจัดฟันเป็นวิธีการปรับโครงสร้างฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการจัดเรียงตัวของฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้เค้าโครงใบหน้าเข้ารูปมากขึ้นได้หลังจากการจัดฟัน และในปัจจุบันการจัดฟันใส Invisalign ก็เป็นวิธีที่ได้นิยมมากให้กลุ่มคนที่ต้องการรอยยิ้มที่สวยงามโดยไม่ต้องติดเครื่องมือที่ฟันแบบการจัดฟันเหล็ก อีกทั้งการจัดฟันใสยังให้ผลลัพธ์ที่เร็วมากกว่าการจัดฟันเหล็ก และสามารถถอดเครื่องมือได้ สะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลรักษา

2. วีเนียร์

วีเนียร์

วีเนียร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันโดยไม่ต้องจัดฟัน โดยวีเนียร์นั้นก็คือการเคลือบฟันด้วยแผ่นเซรามิก เหมาะสำหรับผู้ที่ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบแต่ไม่อยากจัดฟัน โดยการทำวีเนียร์สามารถทำได้ภายใน 7-10 วัน ต่างจากการจัดฟันที่จะต้องใช้เวลานาน 1 – 2 ปี จึงจะเสร็จสิ้น การทำวีเนียร์นั้น นอกจากจะช่วยปรับโครงสร้างฟันแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาฟันบิ่น ฟันแตก ฟันห่าง ได้อีกด้วย ทำให้มีรอยยิ้มที่สวยงามมากขึ้นค่ะ

3. ฟอกสีฟัน

ฟอกสีฟัน

คงไม่มีใครที่อยากจะมีฟันเหลือง เพราะนอกจากจะทำให้รอยยิ้มดูไม่สวยงามแล้ว ยังทำให้ขาดความมั่นใจได้อีกด้วย แต่ในปัจจุบันการฟอกสีฟันถือเป็นวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงก็สามารถกลับมามีฟันที่ขาว และรอยยิ้มที่สดใสได้อีกครั้งค่ะ ฟอกสีฟันช่วยเปลี่ยนสีฟันธรรมชาติที่มีสีเข้มจากสีของเนื้อฟันภายในตัวฟัน หรือสีจากอาหารหรือเครื่องดื่มที่เรารับประทานเป็นประจำ เปลี่ยนสีได้ด้วยการฟอกสีฟัน

4. เลเซอร์ตัดเหงือก

เลเซอร์ตัดเหงือก

สำหรับคนที่มีปัญหาเหงือกหนา เหงือกเยอะ หรือตัวฟันสั้น ทำให้ดูรอยยิ้มไม่สวยงามไม่น่ามอง การตัดแต่งเฉพาะขอบเหงือกด้วยการเลเซอร์ตัดเหงือก สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยในการเลเซอร์ตัดเหงือกจะทำด้วยเครื่องตัดขอบเหงือกโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถตัดเหงือกออกได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็จะห้ามเลือดได้ในตัว แผลที่เกิดหลังจากการทำจะมีขนาดเล็กคล้ายเส้นปากกาแดงขีดตามขอบเหงือก ซึ่งจะใช้เวลาไม่นานแผลก็จะแห้งและหายเป็นปกติ ทำให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยมากขึ้นโดยไม่เห็นเหงือกเยอะ ๆ เหมือนแต่ก่อนได้ค่ะ

5. เลเซอร์เหงือกชมพู

เลเซอร์เหงือกชมพู

สำหรับคนที่มีเหงือกสีเข้ม หรือสีคล้ำจนทำให้ยิ้มแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ การทำเลเซอร์ฟอกสีเหงือกสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ โดยในการทำเลเซอร์ฟอกสีเหงือกนั้น เป็นวิธีการรักษาปัญหาสีเหงือกคล้ำที่ไม่เจ็บ และไม่ทำให้เลือดออกขณะทำ เพราะในขณะที่ทำ คลื่นพลังงานจะช่วยห้ามเลือดไปในตัว และเมื่อทำเสร็จแล้วจะใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อให้แผลตกสะเก็ด จากนั้นเหงือกก็จะกลับมาเป็นสีชมพูน่ามองได้อีกครั้ง ทำให้คุณยิ้มกว้างได้โดยไม่ต้องอายแล้วค่ะ

6. รากฟันเทียม

รากฟันเทียม

การสูญเสียฟันอย่างถาวร นอกจากจะทำลายความมั่นใจในรอยยิ้มแล้ว ยังอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น โครงสร้างฟันมีปัญหา หรือเกิดความผิดปกติในการสบกันของฟัน อันนำมาสู่รูปหน้าที่ผิดปกติได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยม และให้ผลลัพธ์ที่ดี นั่นก็คือ รากฟันเทียม ซึ่งเป็นวิธีรักษาทางทันตกรรมเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากใส่ฟันปลอมถอดได้ หรือฟันสะพานฟัน รากฟันเทียมผลิตจากวัสดุไทเทเนียมที่มีความสามารถเข้ากับเนื้อเยื่อร่างกายมนุษย์ได้ดี เมื่อรากเทียมยึดติดกับกระดูกแล้วก็จะสามารถทำครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอม ยึดติดกับตัวรากฟันเทียม เพื่อให้ได้ฟันใหม่ที่สวยงาม และสามารถบดเคี้ยวอาหารได้เหมือนฟันธรรมชาติค่ะ

และหากคุณกำลังมองหาตัวช่วยให้มีใบหน้าสวย และรอยยิ้มที่สวยงามมากขึ้น การ ทำฟัน ที่ศูนย์ทันตกรรม APEX Dental Center เรามีทีมอาจารย์ทันตแพทย์เฉพาะทาง ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง ที่จะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับรอยยิ้ม และโครงสร้างฟันให้กลับมามีฟันที่เรียงตัวสวยมากขึ้น พร้อมปรับหน้าสวยให้คุณได้โดยไม่ต้องทำศัลยกรรมแบบให้เจ็บตัว

นอกจากนั้น APEX Dental Center ที่สาขาเพลินจิต เราได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลคือมาตรฐาน JCI (Joint Commission International) เพื่อให้ผู้ที่มารับบริการได้รับการรักษาอย่างถูกต้องตามหลักการและดูแลให้บริการอย่างมืออาชีพ

 

ปรึกษาการทำรากฟันเทียมโดยทันตแพทย์เฉพาะทางได้ที่ APEX Dental Center

สาขาเพลินจิต โทร. 062-6623000
สาขาทองหล่อ โทร. 081-9409974
สาขาภูเก็ต โทร. 099-2877451

 

บทความที่ท่านอาจจะสนใจ

 

 

The post 6 วิธี ทำฟัน เพื่อใบหน้าสวย โดยไม่ต้องศัลยกรรม appeared first on Apex Profound Beauty.

5 พฤติกรรมต้องเลี่ยงเสี่ยง ฝ้า กระ

$
0
0

ฝ้า
ต้องยอมรับว่า ปัญหา ฝ้า กระ และจุดด่างดำ คืออีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ทำลายความมั่นใจของหลาย ๆ คนได้ เพราะนอกจากจะทำใบหน้าดูไม่สว่างกระจ่างใสแล้ว ยังทำให้ผิวไม่เรียบเนียนอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ปัญหาฝ้า กระ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้หากคุณยังคงมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบผิด ๆ อยู่ ซึ่ง 5 พฤติที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้า ถ้าไม่อยากเกิดฝ้า และ กระ จนทำให้หมดความมั่นใจ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรม ดังนี้

1. โดนแสงแดดบ่อย ๆ

แสงแดด คือ ตัวการสำคัญของการเกิดฝ้า กระ เพราะแสงแดดนั้นมีรังสียูวี ทั้ง UVA และ UVB ในปริมาณที่มาก ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับมาก ๆ อาจทำให้ร่างกายเกินอนุมูลอิสระ และเกิดฝ้า กระ บนใบหน้าได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ซึ่งหากจะเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ และแต่งกายให้มิดชิดป้องกันแสงแดดก็สามารถช่วยได้แล้วค่ะ

2. รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์

ขอบอกเลยว่าบรรดาของหวาน ของทอด และอาหารฟาสต์ฟู้ด รวมไปถึงอาหารที่มันมาก ๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือตัวการของปัญหาผิวหน้า โดยเฉพาะฝ้า กระ เลยล่ะค่ะ เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายเกิดอนุมูลอิสระที่ทำร้ายเซลล์ต่าง ๆ รวมทั้งเซลล์ผิวหนังจนกลายเป็นปัญหาผิวได้ในที่สุด ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ผิวพัง ควรหันมารับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซี วิตามินบี 12 แร่ธาตุและไฟเบอร์ให้มาก ๆ ก็จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว ด้วยนะคะ ผิวจะได้สวยค่ะ

3. มีความเครียดสะสม

ความเครียดคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดฝ้า กระ เพราะเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา ซึ่งส่งผลต่อการทำงานโดยรวมของร่างกาย รวมทั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินก็จะเพิ่มขึ้นและสะสมจนเกิดเป็นปัญหาฝ้า กระ ได้ในที่สุด ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือ พยายามหาวิธีคลายเครียดจะดีกว่าค่ะ

4. รับประทานยาคุมติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ

สำหรับสาว ๆ ที่รับประทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำ ต้องขอบอกเลยว่าควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะในยาคุมนั้นที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศ ซึ่งจะได้กระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีที่ผิวเพิ่มขึ้น ผลที่ตามมาก็คือคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องจะมีโอกาสเกิดฝ้า กระ ง่ายกว่าคนที่ไม่ค่อยรับประทานยาคุมกำเนิด ดังนั้นหากจำเป็นต้องรับประทานยาคุ้มจริง ๆ ควรรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ หรือปรึกษาแพทย์และเภสัชกรจะดีที่สุดค่ะ

5. ใช้เครื่องสำอางผิด

การใช้เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือสารปรอท นอกจากจะอันตรายกับสุขภาพแล้ว ยังส่งผลเสียงกับผิวโดยตรง เนื่องจากสารเหล่านี้จะส่งผลให้เม็ดสีทำงานผิดปกติ จนสะสมกลายเป็นฝ้ากระได้ ฉะนั้นควรระมัดระวังเรื่องการใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้มาก ๆ เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังค่ะ

และนี่คือส่วนหนึ่งของพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิด ฝ้า กระ ที่ควรเลี่ยงหากไม่อยากเจอกับปัญหาผิว ใครที่รู้ตัวว่ายังมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิด ๆ ตามนี้อยู่ก็ควรเลิกทำจะดีที่สุดนะคะ เพราะเรื่องของปัญหาผิวนั้นทำลายความมั่นใจได้อย่างมาก แถมกว่าจะรักษาหายยังใช้เวลานานเลยล่ะค่ะ

แต่ถ้าหากในตอนนี้คุณกำลังมีปัญหาฝ้า กระ บนใบหน้าก็อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพราะปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาที่น่าหนักใจอีกต่อไปแล้วค่ะ หากรู้จักวิธีการดูแลรักษาผิวอย่างถูกวิธี ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีที่ช่วยดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์หรือคลื่นพลังงานที่ได้รับการรับรองว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้

และที่ APEX เรามีคอร์สการดูแลผิวอย่าง Perfect White ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้พลังงานเลเซอร์ Q-Swtch หรือ Picosure ผสานกับการดูแลผิวด้วยคลื่นพลังงานแสง LED (Light-Emitting Diode) อย่าง Cryo Bright ที่จะช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาของเซลล์ และเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและออกซิเจน กระตุ้นระบบกลไกการทำงานของเซลล์ผิวให้เพื่อการฟื้นฟูตัวเอง พร้อมเติมวิตามินที่จำเป็นต่อผิวด้วย การใช้พลังงาน Cool Shock ผลักวิตามินลงสู่ใต้ชั้นผิว ผลที่ได้ก็คือผิวที่กระจ่างใส ฝ้าและกระจะลดลงได้อย่างเห็นได้ชัด ช่วยให้คุณบอกลาปัญหาผิวที่เคยมีไปได้เลยด้วยคอร์ส Perfect White จาก APEX ค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Line : @apexclear
Inbox: m.me/apexclear
Facebook: http://www.facebook.com/ApexClear/

 

The post 5 พฤติกรรมต้องเลี่ยงเสี่ยง ฝ้า กระ appeared first on Apex Profound Beauty.

ดึงหน้า แบบไม่พักฟื้น เจ็บไม่จบ 6 เดือนต้องทำซ้ำ !

$
0
0

ดึงหน้า

เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาที่ก่อให้เกิดความกังวลใจได้ก็คงหนีไม่พ้นความหย่อนคล้อย ผิวหน้าดูไม่กระชับจนดูเหมือนแก่กว่าวัย ผิวหน้าบริเวณแก้มและลำคอห้อยคล้อยลงจนรู้สึกไม่มั่นใจ ยิ่งกับคนที่อายุเข้าเลข 4 แล้วด้วยนั้นยิ่งจะเริ่มเจอปัญหาแบบนี้จนน่าตกใจ ทำให้หลาย ๆ คนต้องหาวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณใบหน้าที่หย่อนคล้อยลงให้ดูกระชับขึ้น ซึ่งการดึงหน้าก็เป็นอีกหนึ่งที่เป็นทางเลือกที่ใคร ๆ นั้นให้ความสนใจ ซึ่งเราได้นำเทคนิคที่เกี่ยวกับการ ดึงหน้า มาฝากกันค่ะ

เทคนิคดึงหน้า ไม่ต้องพักฟื้น

ปัจจุบันเรื่องของการดึงหน้านั้นได้ถูกพัฒนามาจากเทคนิคการดึงหน้าในแบบเดิมหลายรูปแบบ ซึ่งมีเทคนิคใหม่ที่เรียกได้ว่ากำลังได้รับความสนใจในโลกโซเชียลอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากหลายคนเข้าใจว่าเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาไม่นาน จึงทำให้ไม่ต้องพักฟื้นหลังจากทำเสร็จ และเมื่อทำเสร็จแล้วยังสามารถไปออกกำลังกายหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยเทคนิคนี้เป็นการดึงเฉพาะผิวหน้าที่หย่อนคล้อยขึ้นไปและตัดผิวหนังส่วนเกินและเย็บเก็บ ซึ่งในหลายเคสที่ใช้เทคนิคนี้ในการแก้ปัญหานั้นจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนหรือ 1 ปี เพราะเป็นการดึงหน้าเฉพาะเพียงผิวด้านนอกที่มองเห็นว่าหย่อนคล้อยลง ซึ่งในไม่นานผิวหนังภายนอกก็กลับมาหย่อนคล้อยด้วย จึงทำให้ต้องกลับมาเจ็บตัวซ้ำ ๆ 

ซึ่งอีกเทคนิคที่กำลังเป็นที่นิยมอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นเทคนิคที่มาจากเกาหลี และยังแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด โดยยกกระชับจากชั้นกล้ามเนื้ออย่างเห็นได้ชัดด้วยวิธีดึงหน้าแบบยกกระชับใบหน้าและลำคอคอหรือ Face And Neck Lift

การดึงกระชับใบหน้าและลำคอ (Face And Neck Lift) คืออะไร

ปัญหาทั่วไปของเรานอกจากรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากและหางตาแล้วนั้น บริเวณแก้มและลำคอที่หย่อนคล้อยลงเป็นชั้นก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความกังวลใจที่เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน สำหรับใครที่อายุเข้าเลข 4 หรือเกิดการอ้วนหรือผอมอย่างรวดเร็วมักจะพบกับปัญหาในเรื่องของใบหน้าใบหน้าช่วงล่างและลำคอที่หย่อนคล้อยลงและดูแก่กว่าวัยได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการใช้เทคนิคยกกระชับใบหน้าและลำคอเป็นการดึงยกชั้นกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าช่วงล่างและลำคอขึ้นเพื่อยกกระชับขึ้นและสร้างกรอบหน้าให้ชัดและดูมีมิติไม่หลอกตา แก้ปัญหาแก้มที่ไม่เท่ากัน ผลลัพทธ์ที่ได้เป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นาน 5-7 ปี

ดึงหน้าคอดึงหน้าดึงคอ

ใครที่กำลังลังเลใจเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม กังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ไม่ต้องนั่งกุมขมับกันอีกต่อไป เพราะที่ APEX เรามีเทคโนโลยียกกระชับดึงหน้าและคอ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้คำแนะนำ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนแปลงตัวคุณให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง อีกทั้งยังสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย อีกทั้งยังมีห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้รับมาตรฐานระดับสากล จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ตรงตามความคาดหวังที่คุณต้องการแน่นอนค่ะ

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการย้อนวัย ด้วยเทคนิค ดึงหน้า ดึงคอ

โทร : 0888-7000-39
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurger

 

 

The post ดึงหน้า แบบไม่พักฟื้น เจ็บไม่จบ 6 เดือนต้องทำซ้ำ ! appeared first on Apex Profound Beauty.

หน้าใส ผิวออร่า ลดอายุผิวใน 45 นาทีด้วย CalFace

$
0
0

หน้าใส
เรื่องของใบหน้าเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักที่ใครหลาย ๆ คนนั้นให้ความสำคัญ ยิ่งเมื่อเกิดริ้วรอยทั้งจากวัยที่เพิ่มขึ้น มลภาวะต่าง ๆ รอบตัวเช่น ฝุ่นควัน PM2.5 ยิ่งส่งผลให้ใบหน้าหมองคล้ำ ดูไม่สดใส ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนั้นเราก็ยังบำรุงใหน้าเดิมที่เคยทำ วันนี้เรามี 5 สัญญาณเตือนในเรื่องของผิวหน้าที่กำลังเสื่อมสภาพให้ หน้าใส มาฝากกันค่ะ

ผิวหมองคล้ำกว่าปกติ

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้าที่เคยขาวเนียนก็เริ่มส่งผลให้เห็นผอวจะเริ่มเห็นได้ชัดว่าหมองคล้ำขึ้น ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเซลล์ผิวเกิดการผลักเซลล์ที่ช้าลง ทำหุ้฿กสะสมอยู่บนบริเวณผิวหน้าทำให้ดูหมองคล้ำได้นั้นเอง

มีริ้วรอยเกิดขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น ใบหน้าจะเกิดริ้วรอยบริเวณหางตาและหน้าผากส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ซึ่งการที่ใบหน้าแก่กว่าวัยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงเท่านั้น ยังขึ้นอยู่กับมลภาวะที่ผิวหน้าของเราได้เจอในแต่ล่ะวันอีกด้วย ต่อให้เราอายุยังไม่ถึง 30 แต่หากไม่ดูแลตัวเอง ผิวก็สามารถแก่ได้ค่ะ

จุดด่างดำบนใบหน้า

เรื่องของจุดด่างดำไม่ใช่ว่าอายุที่มากขึ้นเท่านั้นที่จะเกิดเพียงเท่านั้น รอยดำหรือจุดด่างดำสามารถเกิดได้จากมลภาวะหรือสิวซึ่งเป็นสัญญาว่าผิวเริ่มจะแก่แล้วนั้นเอง

ผิวแห้งกว่าเดิม

นอกจากความหมองคล้ำที่เพิ่มขึ้นแล้ว ความชุ่มชื้นและน้ำมันบนผิวก็หายไปได้เช่นกัน ซึ่งหากผิวแก่ขึ้นผิวหน้าก็สามารถแห้งได้เช่นเดียวกัน

มีเหนียง

สัญญาณเตือนอีกหนึ่งสิ่งนั้นก็คือใบหน้าที่เริ่มมีเหนียงบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า ซึ่งจุดที่จะสังเกตเห็นได้ชัดนั้นก็คือบริเวณลำคอ ใต้คางนั้นเอง ยิ่งหากประกอบกับที่บริเวณลำคอที่เหี่ยวกว่าเดิมด้วยแล้ว แปลว่าผิวของคุณกำลังส่งสัญญาณเตือนอย่างแน่นอน

หนึ่งในทางแก้ปัญหาที่กำลังเป็นกระแสในโซเชียลเพราะเห็นผลได้ชัดเจน ช่วยแก้ปัญหาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มทำ ช่วยให้ หน้าใส ได้ นั้นก็คือการฉีดไขมัน CalFace ซึ่งในวันนี้เราได้เอาข้อมูลของการฉีดไขมัน CalFace มาฝากกันค่ะ

การฉีดไขมัน Cal Face

การฉีดไขมันเป็นการนำเอาเซลล์ไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ไม่ต้องการเช่นช่วงขาหรือหน้าท้องที่มีเซลล์ไขมันมากเกินไป ออกมาผ่านกระบวนการเพื่อสกัดเป็นสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพ ซึ่งจะอยู่ได้นานกว่าการฉีดไขมันในรูปแบบเดิม โดยไขมันสเต็มเซลล์ที่ได้จะคงรูป อยู่ได้นานกว่าเดิม อีกทั้งยังไม่เกิดอาการต่อต้านจากร่างกายหลังจากการฉีด เนื่องจากเป็นสารเติมเต็มที่มาจากตัวเอง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย

calface

การเลือกที่จะเข้ารับการฉีดไขมันจำเป็นจะต้องศึกษาทั้งการฉีด แพทย์ผู้ทำการเชี่ยวชาญในการฉีดไขมัน ประสบการณ์ในการฉีด และรวมไปถึงสถานพยาบาลว่าได้รับมาตรฐานและปลอดภัยตามที่ต้องการหรือไม่ อีกทั้งผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดไขมัน อาจใช้วิธีในการสอบถามพนักงานหรือแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย

และที่ APEX เรามีมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดไขมันสเต็มเซลล์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและฉีดไขมันสเต็มเซลล์อย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการสกัดเอาสเต็มเซลล์จากไขมันมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ หน้าใส จะเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ และสเต็มเซลล์จากไขมันจะสามารถคงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน

สอบถามเรื่องการ ฉีดไขมัน สเต็มเซลล์ หน้าใส CAL FACE 

Line@ http://line.me/ti/p/%40APEXsurgery

Call Center

0888-7000-39

0888-7000-16

 

The post หน้าใส ผิวออร่า ลดอายุผิวใน 45 นาทีด้วย CalFace appeared first on Apex Profound Beauty.


Ulthera SPT เทคนิคล่าสุด! การยกกระชับ

$
0
0

Ulthera SPT เทคนิคล่าสุด ยกกระชับ

ถ้าพูดถึงเทคโนโลยียกกระชับใบหน้า สิ่งแรกที่หลาย ๆ คนนึกถึงคงไม่พ้นเทคโนโลยียกกระชับอย่าง อัลเทอราพี (Ultherapy) หรือที่เราเรียกติดปากว่า อัลเทอร่า (Ulthera) เพราะเป็นเครื่องยกกระชับที่ลงลึกถึงชั้น SMAS หรือชั้นกล้ามเนื้อที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า และเป็นเทคโนโลยียกกระชับที่มีในไทยมานานกว่า 10 ปี

อัลเทอร่าเป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเอเพ็กซ์มาตลอดกว่า 10 ปี เพราะเรามีเทคนิคพิเศษที่ทำให้ลูกค้าได้รับผลลัพธ์แบบ Hyper-personal Lift ที่ดีไซด์เฉพาะบุคคลแบบไม่เหมือนใครซึ่งเทคนิคนี้เรียกกว่า Ulthera SPT Technique

อัลเทอรา

Ulthera SPT (See-Plan-Treat) Technique คืออะไร

SPT Technique เป็นเทคนิคการทำ อัลเทอร่า แบบใหม่ล่าสุด ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกสบายระหว่างทำมากขึ้นกว่าเดิม โดยเทคนิค SPT จะเน้นส่งพลังงานไปในชั้นผิวที่มีคอลลาเจนมากที่สุด ไม่เจาะจงว่าต้องยิงลงไปเฉพาะที่ชั้นผิว SMAS อย่างเดียวเหมือนกับแบบเก่า ซึ่งแพทย์ที่ทำจะดูชั้นผิวแต่ละชั้นผ่านหน้าจอแสดงชั้นผิวของเครื่องอัลเทอร่า ว่าชั้นผิวใดมีคอลลาเจนอยู่มาก จากนั้นจะยิงพลังงานลงไปกระตุ้นในทุกชั้นผิวที่มีคอลลาเจนอยู่เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ของการยกกระชับมากที่สุด ซึ่งชั้นผิวของเราที่มีคอลลาเจนอยู่เยอะ สามารถแบ่งเป็น 2 ชั้นผิวหลัก ๆ ได้แก่

Ulthera SPT Skin Layers

    • ชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift)
    • ชั้นผิวที่เรียกว่า Dermal Layer เป็นชั้นรอยต่อที่อยู่ระหว่างชั้นผิวแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Subcutaneous)

อัลเทอร่า เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่ถือว่าเที่ยงตรงและปลอดภัยที่สุด เพราะมีหน้าจอแสดงชั้นผิวที่กำลังรักษาชั้นต่อชั้นแบบ Real Time ทำให้แพทย์สามารถควบคุมพลังงานที่ยิงลงไปในแต่ละชั้นผิวได้อย่างแม่นยำและตรงจุด ซึ่งเทคนิค SPT ล่าสุดนี้ การรักษาจะเป็นการใช้พลังงานกับทุกชั้นผิวที่มีคอลลาเจนอยู่ โดยไม่เน้นถึงแค่เรื่องจำนวนช็อตว่ามากหรือน้อย แต่โฟกัสถึงเรื่องประสิทธิภาพในแต่ละช็อตที่ยิงลงไปมากกว่า

Ulthera SPT Skin Layers

การทำอัลเทอร่า เอสพีที คือการรักษาที่มีประสิทธิภาพในทุกช็อตที่ยิงลงไป เพื่อให้ก่อเกิดประสิทธิผลจริงที่ดีที่สุดหลังจากทำเสร็จแล้ว หากการยิงพลังงานลงไปทุกช็อตได้คุณภาพ ตรงจุด แม่นยำ การยกกระชับก็จะเกิดขึ้นจริง

SPT Technique ต่างจากแบบเก่าอย่างไร

ถ้าเปรียบเทียบเทคนิคการทำอัลเทอร่าที่ทีมแพทย์เอเพ็กซ์ทำกันมาโดยตลอดกับ อัลเทอร่า เอสพีที เทคนิคใหม่ที่ประกาศใช้กันทั่วโลก เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างเพราะที่เอเพ็กซ์มี Training Center ซึ่งทางทีมแพทย์คอยพัฒนาและคิดค้นเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งเราเอาผลลัพธ์ของลูกค้าเป็นที่ตั้งและคิดค้นวิธีที่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

แต่ถ้าให้พูดถึงเทคนิคล่าสุดนี้ต่างจากแบบเก่าอย่างไร ต่างกันตรงที่เมื่อก่อนการจะทำอัลเทอร่า ผู้เข้ารับการรักษามักโฟกัสไปที่ให้ทำจำนวนช็อตเยอะ ๆ ต้องเปลี่ยนใช้หัวให้ครบทุกหัว เพื่อให้รู้สึกว่าครอบคลุมและคุ้มค่าที่สุด แต่สำหรับ SPT Technique เป็นแบบ Customize ซึ่งหมายถึงว่าผู้เข้ารับการรักษาแต่ละคนนั้นจะถูกดีไซน์การใช้พลังงาน ความถี่ในการยิง และเลือกใช้หัวยิงไม่เหมือนกัน โดยแพทย์จะต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไปในการรักษาแต่ละครั้ง

S – See คือ แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวขณะทำการรักษาผ่านหน้าจอแสดงชั้นผิวแบบ Real Time การมีหน้าจอของเครื่องอัลเทอร่าจึงถือว่าสำคัญ และเป็นหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้การยกกระชับด้วยอัลเทอร่ากลายเป็นที่นิยม

P – Plan คือ เมื่อมองเห็นชั้นผิวได้แบบ Real Time แล้ว แพทย์จึงสามารถวางแผนการใช้พลังงานในแต่ละชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ เพราะความแข็งแรงของชั้นผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน รวมถึงชั้นคอลลาเจนของแต่ละคนก็ตื้น ลึกไม่เท่ากัน การมีหน้าจอแสดงผลทำให้แพทย์ทำงานได้สะดวก เมื่อวางแผนได้ก็สามารถทำให้ผลลัพธ์การยกกระชับได้จริงแบบมีคุณภาพ

T – Treat คือ เมื่อแพทย์สามารถวางแผนและออกแบบการยิงในแต่ละไลน์แต่ละช็อตได้แบบ Case by Case อย่างละเอียด นั่นหมายถึงว่าผู้ที่เข้ารับการรักษาจะรู้สึกสบายขึ้นระหว่างที่ทำด้วย แน่นอนว่ารวมถึงการที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย

ทำไมต้องเลือกทำ Ulthera SPT Technique กับ APEX

เรื่องยกกระชับอาร์ตไว้ใจเรามีเสียงยืนยันจากผู้ใช้จริงค่ะ คุณอาร์ต―อารยา อินทรา สไตลิสต์ผู้มากความสามารถที่คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนาน คุณอาร์ตทำงานหนักอย่างเต็มที่ เลยพักผ่อนน้อย และด้วยสายงานที่ต้องพบปะผู้คนตลอด รวมทั้งมีการสังสรรปาร์ตี้อยู่บ่อย ๆ ทำให้มีปัญหาผิวพรรณตามมาอยู่เสมอ คุณอาร์ตจึงตัดสินใจเข้ารับการดูแลด้วยเครื่องอัลเทอร่ากับ APEX

และคุณอาร์ตกลับมาทำอัลเทอร่ากับทาง APEX ปีนี้เป็นที่ 3 แล้วค่ะ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ที่คุณอาร์ตให้ไว้คือ “ทำแล้วดี ถ้าไม่ดีก็คงไม่กลับมา” จึงกลับมาทำซ้ำในทุกปี คุณอาร์ตได้เล่าถึงประสบการณ์การทำ Ulthera ที่เอเพ็กซ์ว่า “เครื่อง Ulthera จริงเครื่องแท้ไม่พอนะ คุณหมอมีส่วนอย่างมากในการทำ Ulthera ให้ผลลัพธ์ออกมาดี ที่เอเพ็กซ์คุณหมอเขา Customize ให้เป็นส่วน ๆ เลย ตรงไหนใหญ่ ตรงไหนไม่เท่ากัน เขาดูและยิงเก็บให้อย่างละเอียด โดยเฉพาะตรงคอที่อาร์ตมีปัญหามากที่สุด เพราะเราก็ยังมีโครงสร้างคล้ายผู้ชาย คือคอใหญ่ คุณหมอยิงให้จนรู้สึกว่าคอเล็ก เรียว ยาวขึ้น และกรอบหน้าก็ชัดเป๊ะเว่อร์” ซึ่งเทคนิคแบบที่คุณอาร์ตพูดถึงก็เป็น Ulthera SPT Technique ที่ตอนนี้ใคร ๆ ก็พูดถึงอย่างกว้างขวาง

ใครอ่านแล้วอยากรู้ว่าเทคนิค Ulthera SPT ดียังไงต้องลองมาทำที่เอเพ็กซ์ค่ะ เพราะคุณหมอเราใช้เทคนิคนี้มากว่า 10 ปี และการันตีผลลัพธ์แบบ Hyper-personal Lift ด้วยรางวัล Top Ulthera Performance ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย

เมื่อ Best Technology มาอยู่ในมือผู้ที่ผ่าน Best Training มาแล้ว ย่อมต้องเป็น Best Result แน่นอนค่ะ หากต้องการปรึกษาเรื่องยกกระชับผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอย เรียกคืนความมั่นใจให้ตัวเอง สามารถจองคิวแพทย์ได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ เรื่องยกกระชับ ไว้ใจ APEX!

๊Ulthera ต้อง Apex

The post Ulthera SPT เทคนิคล่าสุด! การยกกระชับ appeared first on Apex Profound Beauty.

6 เทคนิค ลดพุง สลายไขมันได้ทันใจ

$
0
0

ลดพุง
หนึ่งในปัญหาที่ก่อให้เกิดความกังวลใจหนึ่งอย่างนั้นก็คือการที่มีท้องที่ยื่นออก สัดส่วนไม่เข้ารูปและไขมันพอกบริเวณหน้าท้อง ทำให้หลายคนนั้นเกิดความไม่พึงพอใจในรูปร่างของตัวเอง กังวลจนไม่มีความสุข จนต้องหาตัวช่วยเพื่อปรับเปลี่ยนรูปร่างให้เป็นไปตามต้องการ ทั้งการลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย สำหรับบางคนอาจรู้สึกว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นดูไม่เห็นผลเท่าไร วันนี้เรามี 6 วิธี ลดพุง ทันใจมาฝากกันค่ะ

ทานอาหารระหว่างมื้อ

หลาย ๆ คน อาจคิดว่าการทำอาหารว่างในระหว่างวันนั้นจะยิ่งอ้วนหรือไม่ แต่ความเป็นจริงแล้วการทานของว่างในช่วงมื้ออาหารเวลาประมาณ 3-4 โมงเย็นนั้นจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ช่วยให้ระบบเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ไม่ควรทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือแคลอรี่สูง ควรเลือกเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงเช่นโปรตีนบาร์ หรืออัลมอนด์แทนในปริมาณเล็กน้อย

ลดการกินแป้ง

ในหนึ่งวันควรจำกัดปริมาณอาหารจำพวกแป้งให้มีปริมาณที่น้อยลงเนื่องจากการลดแป้งนั้นจะช่วยลดไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องและส่วนอื่น ๆ หรือเลือกทานคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ขัดสี เช่นข้าวโอ๊ต  ซึ่งช่วยส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญให้ดียิ่งขึ้น และยังลดไขมันสะสมได้อีกด้วย

ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว

การดื่มน้ำสะอาดสามารถช่วยลดหน้าท้องได้นะคะ เพราะการดื่มน้ำนั้นจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอีกทั้งยังช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและอาการท้องอืด ใครที่อยากให้หน้าท้องแบนราบ แนะนำให้ดื่มน้ำแก้วใหญ่ก่อนมื้ออาหารจะช่วยได้ค่ะ

เพิ่มอาหารที่มีไฟเบอร์

ไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร โดยปกตินั้นจะพบในรูปแบบของผักและผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ ช่วยในการดูดซึมน้ำและชะลอการลำเลียงอาหาร ช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น การกินไฟเบอร์ยังช่วยลดไขมันสะสมในส่วนต่าง ๆ และสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

พักผ่อนให้เพียงพอ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยในเรื่องการลดหรือสลายไขมันนั้นคือการพักผ่อน เราไม่ควรพักผ่อนน้อยกว่า 5 ชั่วโมง อีกทั้งการนอนน้อยยังเสี่ยงให้เกิดโรคอ้วนได้ถึง 55 % จึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ

ซึ่งอีกเทคนิคที่ช่วยสลายไขมันได้ทันใจจาก Apex Slim ที่จะช่วยดูแลรูปร่าง โดยใช้เทคโนโลยีในการช่วยสลายไขมันได้ 20-30 %ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แถมยังกระชับผิว กำจัดเซลลูไลท์อย่างเทคนิค Z-lipo ซึ่งเราได้นำเรื่องของการทำ Z-lipo มาฝากกันค่ะ

Z-lipo คือเทคนิคการกำจัดไขมันด้วยความเย็นถึง -11 องศา เพื่กำจัดไขมันได้อย่างตรงจุด ซึ่งได้ความนิยมอย่างมากในยุโรป ด้วยกรรมวิธีในการทำลายเซลล์ไขมันโดยใช้ความเย็นอย่างเฉพาะจุด ไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ สามารถกำจัดไขมันได้ 20-30 % ภายใน 8-12 สัปดาห์ เหมาะสำหรับใครที่มีรูปร่างอวบ มีไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ไม่สามารถลดไขมันได้ ใช้เวลาในการทำไม่นานอีกด้วย

ใครที่กำลังหาวิธีลดพุงอยู่หรือกำลังกังวลใจในเรื่องไขมันรอบเอว ลองเก็บเทคนิคของ Z-lipo ไว้เป็นตัวเลือกด้วยนะคะ และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้ารับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้คำแนะนำได้ที่ศูนย์ Apex Slim ได้เลยค่ะ มั่นใจได้เลยว่าหุ่นสวย ลดพุง ยุบดั่งใจแน่นอน


ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เทคนิค ลดพุง ด้วย Z-lipo

📞088-870-0015

📲LINE: @apexslim หรือคลิกเลย https://line.me/ti/p/%40APEXslim

FB INBOX: http://m.me/apexslim

FB Page: https://www.facebook.com/ApexSlim

 

 

The post 6 เทคนิค ลดพุง สลายไขมันได้ทันใจ appeared first on Apex Profound Beauty.

หน้าแห้ง ผิวแห้ง ในกลุ่มสูงวัย HA Skin Booster ช่วยได้

$
0
0

 ภาวะหน้าแห้ง ผิวแห้ง ผู้สูงวัย HA Skin Booster ช่วยได้

เมื่อเราอายุเข้าเลข 3 ปลาย ๆ หลายคนจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงทางผิวหน้าของตัวเอง จากตอนสาว ๆ ผิวที่ดูฉ่ำ ชุ่มชื้น ก็เริ่มมีความแห้ง กร้าน ริ้วรอยเล็ก ๆ ก็เริ่มมา ซึ่งอาการ หน้าแห้ง ผิวแห้งนี้ พบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิงแสดงว่าฮอร์โมนที่ลดลงไม่ได้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดหน้าแห้ง ผิวแห้ง แต่เกิดจากเมื่อเราอายุมากขึ้นการสร้างไขมันที่ผิวหนังของเราลดลงโดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน  

นอกจากนี้การใช้ชีวิตประจำวันของเรา เช่น การอาบน้ำบ่อย ๆ การอาบน้ำอุ่น และการใช้สบู่ที่มีฤทธิ์เป็นด่างก็ทำให้ผิวหนังสูญเสียไขมันที่เป็นเกราะป้องกันผิวชั้นนอกไปอีกด้วย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผิวแห้งในผู้สูงอายุ และยิ่งในฤดูหนาว ความชื้นในอากาศต่ำทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้มากขึ้น ผิวจึงแห้งและคันมากขึ้นกว่าปกติ แต่ภาวะ หน้าแห้ง ผิวแห้งไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอกเท่านั้น แต่ยังเกิดจากภาวะภายในอีกด้วย เช่น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน โรคไต ขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ขาดสารอาหาร ขาดน้ำ หรือได้รับยาบางชนิดในการรักษาโรค เช่น ยาขับปัสสาวะ กรดวิตามินเอ เป็นต้น

หน้าแห้ง ผิวแห้ง ผู้สูงวัย ใช้ HA Skin Booster Volite

ในผู้สูงอายุ ผิวหนังทุกชั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ความสามารถในการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าลดลง ซึ่งปกติวงจรการผลัดเซลล์ผิวของชั้นหนังกำพร้าจะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ แต่ในผู้สูงอายุ วงจรนี้จะใช้เวลานานขึ้นถึง 2 เท่า! ความสามารถในการกักเก็บน้ำไว้ที่ผิวหนังก็ลดลง ผิวหนังจะบางลงมากถึง 50% โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกแสงแดดบ่อย ๆ เช่น ใบหน้า คอ หลังมือ และแขนไม่เพียงแต่ผิวบางลง เส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินก็จะบางลงเช่นกัน เส้นใยที่ประสานกันจะขาดความยืดหยุ่น ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่น ต่อมเหงื่อ และต่อมไขมันทำงานลดลง ทำให้ผิวหนังในผู้สูงอายุมีลักษณะแห้ง เป็นขุย มีสะเก็ด และหยาบง่ายขึ้น

10 วิธีการดูแลตนเองเพื่อป้องกันภาวะ หน้าแห้ง ผิวแห้ง

    1.  เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสม คือ มีค่าความเป็นด่างน้อยแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ประมาณ 5 มีสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิวและไม่มีสารลดแรงตึงผิว (surfactant)
    2.  ทาโลชั่น ครีม หรือน้ำมันเป็นประจำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง (moisturizer) แนะนำให้ทาหลังอาบน้ำทันที เช้า-เย็น หรือทาบ่อยๆ ในกรณีที่ผิวแห้งมาก และควรเลือก moisturizer ที่ไม่มีน้ำหอม เพื่อลดโอกาสในการแพ้สารเหล่านั้น
    3.  งดการอาบน้ำอุ่นจัด หรืออาบน้ำเป็นเวลานาน
    4.  งดการกัดผิวและขัดผิว
    5.  หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ และน้ำหอม
    6.  หลีกเลี่ยงการเกาหรือเสียดสีบริเวณที่มีอาการคัน เนื่องจากจะกระตุ้นให้มีอาการอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังได้
    7.  สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบายผิว
    8.  ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
    9.  หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัดเป็นเวลานาน และควรป้องกันแสงแดดโดยทาครีมกันแดด สวมหมวก กางร่ม และใส่เสื้อแขนยาว
    10.  ในฤดูหนาวควรเลือกครีมที่มีความเข้นข้นพิเศษ

Juvéderm Volite HA Skin Booster

การรักษาภาวะ หน้าแห้ง ผิวแห้งที่เราได้ยินกันมาตลอดก็คือ การทาครีม ทาโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง เพิ่มเกราะป้องกันผิวหนัง (Skin Barrier) และลดการสูญเสียน้ำในผิวหนัง พอผิวชุ่มชื้นอาการแห้งและคันก็จะลดลง แต่นั่นก็แค่ภาวะภายนอกและต้องทาตลอดถึงจะเห็นผล แต่ตอนนี้เรามีนวัตกรรมที่ง่ายและเห็นผลยาวนานเรียกว่า HA Skin Booster หรือ Juvéderm Volite จากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA)

ซึ่งเป็นสารไฮย่าชนิดเข้มข้น Cross Link ชนิดใหม่ที่ทำให้การฉีดเพียงครั้งเดียวผิวชุ่มชื้นนานไปถึง 9 เดือน หรือเท่ากับการทาครีมแพง ๆ เป็นเวลา 1 ปี!! HA Skin Booster หรือ Juvéderm Volite ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องผิวแห้งกร้าน แต่ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว ทำให้ผิวดูฟูขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ และรูขุมขนกระชับ ผิวละเอียดดูฉ่ำวาว ทำให้คุณดูเด็กลงอีกด้วย

HA Skin Booster Volite

ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ช่วงวัยไหน ถ้ากำลังมีปัญหา หน้าแห้ง ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น หรือสำหรับใครที่ใช้ครีมทาหน้าราคาแรงอยู่ แต่ทา ๆ ไปก็ยังไม่เห็นผลสักที สนใจอยากรู้รายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับตัว HA Skin Booster – Juvéderm Volite เพิ่มเติม สามารถสอบถามเข้ามาได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ

The post หน้าแห้ง ผิวแห้ง ในกลุ่มสูงวัย HA Skin Booster ช่วยได้ appeared first on Apex Profound Beauty.

VEX Program คอร์สดูแลหุ่นสวยกับคุณแอนโทเนีย

$
0
0

Anntonia Porsild VEX Program

การดูแลรูปร่างไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกับคนที่มีปัญหารูปร่างเท่านั้นนะคะ เพราะสำหรับบางคนหรือบางอาชีพ การมีรูปร่างที่ดีอยู่เสมอถือเป็นสิ่งจำเป็น และถึงแม้จะมีรูปร่างเพอร์เฟคกันอยู่แล้ว อย่างเช่น นางแบบหรือนางงาม ที่มีทั้งการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายเป็นกิจวัตร แต่ก็อาจจะมีหลายต่อหลายครั้งที่งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ทำให้การเผาผลาญไม่ได้ดีเท่าเดิม ด้วยเหตุนี้เลยต้องมองหาตัวช่วยในการดูแลรูปร่างแบบเร่งด่วนกันบ้าง

Anntonia Porsild Miss Supranational 2019 VEX ProgramAnntonia Porsild VEX Program

เหมือนกับคุณแอน—แอนโทเนีย โพซิ้ว (Anntonia Porsild) นางแบบสาวหุ่นสวยที่มีดีกรีเป็นถึงนางงามเวที Miss Supranational 2019 เป็นทั้งนางงามและนางแบบหุ่นสวยขนาดนี้ แต่คุณแอนโทเนียยังแอบมีความกังวลเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเองอยู่บ้าง เพราะมีช่วงที่ต้องอวดหุ่นสวยมากขึ้น ทั้งการเดินแบบหรือเดินสายตามสื่อต่าง ๆ ทำให้เวลาที่จะไปโฟกัสเรื่องการดูแลรูปร่างน้อยลงหรือแทบจะไม่มีเวลาเลย

Anntonia Porsild Vanquish

คุณแอนโทเนียเลยเริ่มมองหาโปรแกรมที่สามารถดูแลรูปร่างตัวเองได้แบบตอบโจทย์ที่สุด จนตัดสินใจมาทำ VEX Program ที่ APEX Slim เพราะได้รับคำแนะนำจากหลาย ๆ คนในวงการมาว่าที่นี่ทำได้ดี และยังมีเครื่องมือที่ทันสมัย เลยตัดสินใจเข้ามาลองทำดูบ้าง

Anntonia Porsild Exilish

ปัญหาสัดส่วนที่คุณแอนโทเนียมีความกังวลคือ บริเวณหน้าท้องกับขา โดยมีความคาดหวังหลังจากจบคอร์ส VEX Program ว่าจะมีหน้าท้องที่แบนราบขึ้นกว่าเดิมและได้ช่วงเอวที่คอดสวยเพิ่ม เพื่อช่วยเสริมความมั่นใจให้ตัวเองในการใส่เสื้อผ้ามากขึ้นนั่นเอง

Anntonia Porsild X-wave

และหลังจากที่ได้ทำ VEX Program ไปแล้ว คุณแอนโทเนียเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกคิดไว้ว่าในระหว่างการทำ VEX จะต้องรู้สึกว่าเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่พอได้ทำจริง ๆ กลับไม่รู้สึกว่าเจ็บหรือปวดเลย ตอนที่ทำรู้สึกเหมือนมีคนมานวดบริเวณหน้าท้องให้มากกว่า อีกอย่างคือการให้บริการมีความเป็นกันเองมาก เลยทำให้ระหว่างการทำ VEX อยู่นั้นรู้สึกสบายมาก ๆ อีกด้วย

คุณแอนโทเนียยังบอกต่ออีกว่า หลังจากนี้จะกลับมาอีกแน่นอน และยังคงยืนยันอีกครั้งว่าการทำ VEX Program ไม่ได้เจ็บแถมยังรู้สึกสบายมาก ๆ อีกด้วย

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 
📞088-870-0015
📲LINE: @apexslim หรือคลิกเลย https://line.me/ti/p/%40APEXslim
FB INBOX: http://m.me/apexslim
FB Page: https://www.facebook.com/ApexSlim

The post VEX Program คอร์สดูแลหุ่นสวยกับคุณแอนโทเนีย appeared first on Apex Profound Beauty.

5 เคล็ดลับจัด บุฟเฟ่ต์ ให้คุ้ม ๆ แบบตัวไม่แตก

$
0
0

5 เคล็ดลับ จัด บุฟเฟ่ต์ แบบคุ้ม ๆ ให้ตัวไม่แตก

เงินเดือนออกทั้งทีหลายคนคงอยากฉลองด้วยอาหารอร่อย ๆ อย่างน้อยหนึ่งในตัวเลือกของคุณน่าจะมีร้าน บุฟเฟ่ต์ อยู่ในลิสต์ด้วย ‘All You Can Eat’ คือคอนเซปต์ของร้านอาหารที่ทานทุกเมนูได้แบบไม่อั้น และจ่ายเพียงราคาเดียวต่อหนึ่งหัว มีทั้งแบบจำกัดเวลาและไม่จำกัดเวลา แต่ที่ทุกคนรู้สึกได้เหมือนกัน คือ มันคุ้มที่สามารถทานอาหารหลากหลายได้ในราคาที่จ่ายไป

สำหรับสายกินจริงจังคงฟินกับการเข้าร้านบุฟเฟ่ต์อยู่แล้ว แต่จะมีอีกกลุ่มที่ชอบกินจริงจังเหมือนกันแต่ก็ต้องรักษารูปร่างแบบจริงจังอยู่ด้วย เวลาจะเข้าร้านบุฟเฟ่ต์ก็อาจต้องใช้เวลาคิดสักหน่อยว่าทำยังไงให้ทานได้แบบคุ้ม ๆ ให้หุ่นที่รักษาเอาไว้ไม่แตกออกมาเสียก่อน

การทานบุฟเฟ่ต์ ไม่ว่าจะเป็นปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ ให้คุ้ม ๆ โดยที่ยังสามารถรักษาหุ่นเอาไว้ด้วยได้ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย มีเคล็ดลับง่าย ๆ เพียง 5 ข้อ ที่เรารวบรวมเอาไว้ในบทความนี้ เพื่อให้คุณได้ทานบุฟเฟ่ต์กันอย่างสบายใจ

5 เคล็ดลับ จัด บุฟเฟ่ต์ ให้ ตัวไม่แตก ลดน้ำหนัก

5 เคล็ดลับ จัดบุฟเฟ่ต์ ให้คุ้ม ๆ แบบตัวไม่แตก

1.เลือกเวลาทานบุฟเฟ่ต์ เป็นช่วงกลางวัน

เวลาที่แนะนำในการทาน บุฟเฟ่ต์ คือ ช่วงเวลาตั้งแต่ 11 โมงเป็นต้นไป และไม่ควรเกิน 6 โมงเย็น (18.00 น.) ร่างกายของเราจะเผาผลาญพลังงานได้ดีในช่วงเช้าไปจนถึงบ่าย ๆ การทานบุฟเฟ่ต์ก็เปรียบเสมือนการทานมื้ออาหารหนัก ๆ ในหนึ่งวันที่ต้องได้รับการเผาผลาญอย่างเต็มที่ ถ้าเลือกทานในช่วงกลางวันจะทำให้ร่างกายใช้พลังงานได้ดีมากกว่า และยังช่วยให้คุณเลือกทานได้อย่างสบายใจมากกว่าด้วย

2.ไม่อดอาหารเพื่อไปทานบุฟเฟ่ต์

หลายคนอาจคิดว่าไหน ๆ ก็จะไปจัดบุฟเฟ่ต์อยู่แล้ว งั้นอดข้าวไว้ไปทานทีเดียวเลยดีกว่าจะได้ทานได้เยอะ ๆ คุ้ม ๆ แต่นั่นเป็นความคิดที่ค่อนข้างผิดทีเดียว หากเราปล่อยให้ตัวเองหิวมากเกินไป เมื่อถึงเวลาทานเข้าจริง ๆ คุณจะทานได้น้อยลงกว่าที่ตั้งใจ

3.ไม่รีบทานจนเกินไป

ร้าน บุฟเฟ่ต์ บางร้านจะมีเวลาจำกัดในการทาน (1-2 ชั่วโมง) เลยทำให้หลาย ๆ คนรีบทานเกินไป เรียกว่ารีบยัด ๆ เข้าไปตั้งแต่เริ่มแรก เพราะกลัวหมดเวลาแล้วจะทานได้ไม่คุ้ม พอรีบทานการบดเคี้ยวอาหารจะกลายเป็นรีบเคี้ยว รีบกลืนลงไป ซึ่งไม่เป็นผลดีกับระบบย่อยอาหารแน่นอน และอาการที่ตามมา คือ ท้องอืด จุกเสียด แบบไม่ต้องสงสัย ดังนั้น ค่อย ๆ ทาน ค่อย ๆ เคี้ยวจะดีกว่า เคี้ยวให้ละเอียดจะลิ้มรสอาหารได้อย่างเต็มที่ รวมถึงไม่เป็นภาระให้ระบบย่อยอาหารอีกด้วย

4.เลือกทานให้หลากหลาย

ไม่ว่าจะชาบู ปิ้งย่าง หมูกระทะ หรือบุฟเฟ่ต์ในรูปแบบอื่น ๆ สิ่งที่เหมือนกัน คือ การมีอาหารหลากหลายประเภทให้เลือกรับประทาน แต่คนส่วนมากมักจะเลือกทานอะไรที่ตัวเองชอบก่อนอยู่แล้ว และส่วนใหญ่คงจะเน้นหนักไปทางเนื้อสัตว์(ที่ติดมัน) อาหารทะเล หรือของหวาน ซึ่งการเลือกทานแบบนั้นในปริมาณที่มากเกินไปคงไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย อย่างน้อยควรทานผักให้ได้สักครึ่งหนึ่งของมื้ออาหาร เพื่อให้ช่วยระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ที่สำคัญคืออย่าลืมดื่มน้ำเปล่าเพื่อการเผาผลาญแคลอรีที่มีประสิทธิภาพต่อไป

5.ทานไม่เกินเดือนละ 2 ครั้ง

การทานบุฟเฟ่ต์มักเป็นมื้อที่ทานเยอะกว่าปกติ และการที่เราทานอาหารบางอย่างมากเกินไปบ่อย ๆ อาจมีปัญหาสุขภาพตามมาได้ ซึ่งในบางคนระบบเผาผลาญอาจไม่ได้ดีเท่าที่ควร การทานอาหารแบบเกินสมดุลจะทำให้แป้ง ไขมัน น้ำตาล ไปสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้น ทานกันแบบพอดี ๆ และอีกอย่างคือไม่เปลืองเงินด้วยนั่นเอง!

เห็นไหมคะว่าเราสามารถทานกันแบบจริงจังไปพร้อม ๆ กับการดูแลหุ่นสวยได้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าใครยังรู้สึกว่าไม่พอใจกับการดูแลรูปร่างของตัวเอง อยากเร่งการเผาผลาญให้มากกว่านี้ หรืออาจจะแอบรู้สึกผิดที่ตามใจปากเยอะไป เราเลยขอเพิ่มเคล็ดลับให้อีกหนึ่งข้อที่จะช่วยคุณดูแลรูปร่างได้อย่างตั้งใจ

ด้วยในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ด้านเสริมความงามที่เกี่ยวกับการดูแลรักษารูปร่างเพิ่มมากขึ้น และแน่นอนว่าปลอดภัยมากขึ้นด้วย ผลิตภัณฑ์มากมายที่นำมาใช้ตามคลินิคต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ได้รับการรับรองจาก FDA ทั้งสิ้น ดังนั้น ในเรื่องความปลอดภัยจึงไม่ต้องเป็นกังวล และเคล็ดลับอีกข้อที่อยากแนะนำสำหรับสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ สายกิน ที่อยากกลับมารักษารูปร่าง คือ โปรแกรม 1 Week 1 Kg. ด้วยเปปไทด์ลดหิว ผนวกเข้ากับ VEX Program นั่นเอง

1 week 1 kg. program ควบคุมแคลอรี่ เปปได์ลดหิว

1 Week 1 Kg. ด้วยเปปไทด์ลดหิว เป็นโปรแกรมที่แนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของศูนย์ลดน้ำหนัก APEX Slim ซึ่งรับรองถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ไม่เหี่ยว ไม่โทรม ไม่มีการเกิด Yoyo Effect ตามมา เจ้า ‘เปปไทด์ลดหิว’ ตัวนี้ มีหน้าที่เพื่อช่วยคุมแคลอรีจากอาหาร เพิ่มพลังการเผาผลาญ และเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นให้กับร่างกาย

1 week 1 kg. program ควบคุมแคลอรี่ เปปไทด์ลดหิว

เปปไทด์ลดหิว เป็นสารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมนในบริเวณลำไส้ของคนเรา เมื่อร่างกายได้รับเปปไทด์ลดหิวเข้าไป เปปไทด์ตัวนี้จะส่งสัญญาณถึงสมองว่ากระเพาะอาหารเต็มแล้ว และเมื่อเราทานอาหารเข้าไป จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นด้วย ช่วยลดความรู้สึกหิวและอยากอาหาร เลยสามารถทำให้ควบคุมอาหารได้ง่ายขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักได้ถึง 80%

VEX Program คือการผสาน 3 สุดยอดเทคโนโลยีเพื่อการดูแลรูปร่างเอาไว้ในโปรแกรมเดียว ได้แก่

Vanquish: เพื่อการสลายไขมัน ด้วยการใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง สลายไขมันด้วยอุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส โดยที่ไม่ต้องสัมผัสผิวหนัง และยังสามารถกำจัดไขมันได้อย่างถาวร เช่นเดียวกับการดูดไขมันอีกด้วย

Exilis: เพื่อการกระชับผิว สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ด้วยการใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง ร่วมกับพลังงานเสียงอัลตราซาวน์ ช่วยกระชับสัดส่วนที่ย้วยเกินออก ทำงานโดยการส่งพลังงานลงถึงเนื้อเยื่อผิวในหลายระดับความลึก ช่วยทำลายไขมัน พร้อม ๆ กับฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน

X-wave

X-wave: เพื่อการกำจัดเซลลูไลท์ ผิวที่ไม่เรียบเนียน อย่างเห็นผลได้ทันที เป็นการใช้พลังงานการสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงสะท้อน (Acoustic Wave Pulses) ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนัง ผิวจึงกระชับและแน่นขึ้น กระตุ้นระบบประสาทและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ผิวในบริเวณที่ถูกกระตุ้นจึงเกิดการฟื้นฟู แข็งแรงขึ้น เรียบเนียน ดูสดใส เป็นผิวสุขภาพดี

โปรแกรม 1 Week 1 Kg. ด้วย เปปไทด์ลดหิว ที่ผนวกเข้ากับ VEX Program จึงน่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกการช่วยดูแลรูปร่างของหนุ่มสาวสายกินได้ เพราะการทำทั้ง 2 โปรแกรมนี้ควบคู่กันไป ช่วยสลายไขมันได้ถึง 20% พร้อมทั้งกระชับผิว ช่วยกำจัดเซลลูไลท์ สร้างการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เร่งการเผาผลาญพลังงาน ลดความหิวและความอยากอาหารลง ช่วยให้ควบคุมอาหารได้อย่างใจ ดังนั้น การจะมีหุ่นสวย เฟิร์ม ได้สัดส่วนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว และสำคัญที่สุดเลยก็คืออย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ

นอกจากนี้ เพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีคุณภาพ และเป็นผลดีต่อสุขภาพ ไม่เกิดอาการเหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลีย สูตรการลดน้ำหนัก ที่ APEX Slim ยังประกอบไปด้วยการเสริมสารอาหาร, เพิ่มพลังงาน และเร่งการเผาผลาญ การกำจัดไขมันด้วยนวัตกรรมความเย็นเยือกแข็ง Zlipo, Coolsculpting, เทคโนโลยี Emsculpt กำจัดไขมันและเพิ่มกล้ามเนื้อหนึ่งเดียวในโลก ทำ 1 ครั้งเท่ากับซิทอัพ 20,000 ครั้งใน 30 นาที, การเพิ่มการเผาผลาญและฟื้นฟูเซลล์จากภายในด้วยนวัตกรรม IceLab ความเย็น -110°C

อยากดูแลรักษารูปร่างให้ได้ผลลัพธ์ดังใจ รวมถึงมีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หรือจองคิวเข้ามาได้ที่ Line@: @apexslim (มี @ นำหน้า) เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยให้คำปรึกษาอยู่ค่ะ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 
📞088-870-0015
📲LINE: @apexslim หรือคลิกเลย https://line.me/ti/p/%40APEXslim
FB INBOX: http://m.me/apexslim
FB Page: https://www.facebook.com/ApexSlim

The post 5 เคล็ดลับจัด บุฟเฟ่ต์ ให้คุ้ม ๆ แบบตัวไม่แตก appeared first on Apex Profound Beauty.

Viewing all 2628 articles
Browse latest View live